เหตุการณ์ยิงกราดในเมืองโคราช

ณ ตอนนี้คงจะไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า เหตุกราดยิงที่วัวราชเปลี่ยนเป็นเรื่องราวความร้ายแรงอีกรอบหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ด้วยลำดับเรื่องราวที่ทั้งยังตื่นเต้นรวมทั้งเชิญชวนให้สลดใจจากการสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่ กรณีนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งหน้าของประวัติศาสตร์ที่ควรจะบันทึกไว้ เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับในการปฏิบัติงานของภาคส่วนต่างๆและเป็นบทเรียนให้สังคมได้ขบคิดกันต่อ ถึงทางคุ้มครองป้องกันไม่ให้โชคร้ายแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำสอง

ท่ามกลางกระแสข่าวจากสื่อต่างๆสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ตเป็น “แฮชแท็ก” ที่ชาวเน็ตช่วยเหลือกันตั้งขึ้น เพื่อประกอบฉากต่างๆที่เกิดขึ้นในเรื่องกราดยิงคราวนี้ นอกเหนือจากการให้ความเห็น ติชมเรื่องแล้ว แฮชแท็กพวกนี้ยังปฏิบัติหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนประเด็นเล็กๆจำนวนมาก ที่เกิดจากเหตุกราดยิง และก็บางทีอาจเป็นบันทึกรูปแบบใหม่ ที่พวกเราบางครั้งก็อาจจะกลับมาอ่านทวนได้ทุกครั้ง และก็นี่เป็น 5 แฮชแท็กที่สะท้อนเรื่องราวในเหตุกราดยิงที่วัวราช

PrayForKorat และ SaveKorat

สองแฮชแท็กสำคัญที่เกิดขึ้นโดยทันทีภายหลังมีการเสนอข่าวสารกราดยิงที่วัวราช เป็นการแสดงถึงความห่วงลูกพี่ลูกน้องชาววัวราช จากผู้อื่นที่อยู่นอกพื้นที่ นับเป็นสิ่งที่น่าประทับใจในโลกยุคสมัยใหม่ ที่ผู้คนสามารถแสดงความประสงค์ดีเพื่อนมนุษย์ได้จากทุกมุมโลก ลักษณะของแฮชแท็กที่ภาวนาให้บุคคลหรือคนภายในพื้นที่ปลอดภัย เกิดมาแล้วก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็น SaveAmazon ในเรื่องไฟลุกป่าแอมะชอน SaveAustralia ในเรื่องไฟป่าครั้งใหญ่ของประเทศออสเตรเลีย SaveHakeem จากในกรณีที่รัฐบาลไทยจับตัวนายฮาคีม อัล อาไรบี นักเตะผู้หนีภัยชาวบาห์เรน หรือ PrayForWuhan ในกรณีวัวโรที่นาเชื้อไวรัสที่เป็นภัยรุกรามราษฎรในเมืองอู่ฮั่น ฯลฯ

สื่อไร้จรรยาบรรณ

เหตุกราดยิงที่วัวราชเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แสดงภาพการทำงานและก็ระดับศีลธรรมของสื่อมวลชนได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเวลาที่สื่อทั่วฟ้าประเทศไทยกำลังมีความสนใจสถานะการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้น สื่อบางสำนักกลับก้าวล้ำเส้นจรรยาบรรณ กระทั่งนำมาซึ่งการก่อให้เกิดเสียงติชมในโลกอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์คนที่ติดอยู่ข้างในห้าง พร้อมบอกจุดที่หลบซ่อนอย่างสมบูรณ์ กระทั่งมีโอกาสเสี่ยงต่อความปลอดภัยของคนที่หลบซ่อนอยู่ การถ่ายทอดสดดำเนินการของข้าราชการ รวมทั้งการสัมภาษณ์เครือญาติผู้ตายอย่างไม่เหมาะสม ก่อนที่จะสโมสรผู้สื่อข่าวคนเขียนข่าวที่เมืองไทยจะออกคำอธิบายให้สื่อเสนอข่าวสารอย่างถี่ถ้วน แล้วก็ร่วมมือกับข้าราชการ และก็ตามด้วย กสทช. ที่ห้ามสื่อถ่ายทอดสดการกระทำงานของข้าราชการ เพื่อให้มีความปลอดภัยของราษฎร

ทีมแป๊ะ

ในปฏิบัติงานช่วยเหลือตัวประกันคราวนี้ หนึ่งในบุคคลที่สังคมไทยชื่นชอบก็เห็นจะหนีไม่พ้น พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา หรือ “บิ๊กแป๊ะ” ผู้บังคับบัญชาตำรวจแห่งชาติ ที่ควงลูกชายคนโตเป็น “ผู้กองฮัท” ร้อยตำรวจเอกชานันท์ ชัยจินดา ลงพื้นที่ร่วมทำการตั้งแต่คืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ รวมทั้งกลับออกมาภายหลังที่ฆาตกรถูกวิสามัญฆาตกรรมในยามเช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งกระแสยกย่องแนวทางการทำงานของบิ๊กแป๊ะก็ดูเหมือนจะกลบกระแสข่าวประเด็นการแต่งลูกชายตนเองเป็นสารวัตร แม้ว่าจะมีคุณลักษณะไม่ครบก็ตาม