Latest Posts

โดนเสื้อเหลืองรุมทำร้าย

วินมอร์เตอร์ไซต์ถูกกลุ่มชายเสื้อเหลืองรุมทำร้ายเพราะผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยใส่เสื้อสีดำ

       เหตุการณ์การชุมนุม เมื่อวันที่ 14 เดือนตุลาคม ปี พ.ศ.2563 ที่เหล่าคณะราษฎร 63  ได้ออกมารวมตัวกันนัดกันมาชุมนุม โดยมีสัญลักษณ์ด้วยการใส่เสื้อสีดำ ในขณะเดียวกันก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่เคยเป็นกลุ่มเสื้อเหลืองที่เคยออกมาชุมนุมเมื่อหลายปีที่ผ่านมาได้ ออกมาชุมนุมเช่นเดียวกัน ซึ่งสัญลักษณ์ของเสื้อนั้น กลุ่มคนเหล่านี้จะใส่เสื้อสีเหลือง

       และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ มีคนขับรถรับจ้างได้มีการรับผู้โดยสาร ที่ใส่เสื้อสีดำ ซึ่งคาดว่าจะมาร่วมชุมนุม ได้เข้าไปส่งลูกค้าตรงบริเวณ สะพานมัฆวานรังสรรค์   และบังเอิญว่ากลุ่มคนชุมนุมเสื้อเหลืองอยู่ตรงบริเวณนั้นพอดี ทำให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกัน เพราะกลุ่มเสื้อเหลืองไม่พอใจชายชุดดำ และเมื่อมีการทำร้ายร่างกายกัน  วินที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งลูกค้าที่บังเอิญใส่เสื้อสีดำก็โดนลูกหลงถูกทำร้ายร่างกายด้วย  

       และเหตุการณ์ความรุนแรงไม่ได้จบเพียงแค่นี้ เมื่อมีนักข่าวจากสำนักข่าวช่องหนึ่งใส่เสื้อสีดำ ออกมาช่วยเหลือวินจักรยานยนต์รับจ้างก็ถูกกลุ่มชายเสื้อเหลืองทำร้ายอีกเช่นเดียวกัน โดยพวกเขาไม่ยอมฟังคำชี้แจงแต่อย่างใด ส่งผลให้กลุ่มชายชุดดำและวิน ได้รับบาดเจ็บ และเหตุการณ์ในครั้งนี้สามารถถ่ายเอาไว้ได้ จึงได้มีการเอามาเผยแพร่ผ่านระบบออนไลน์ถึงการกระทำของกลุ่มชายเสื้อเหลือง ที่ทำร้ายร่างกายคนไปทั่ว โดยที่ไม่สนว่าเขาจะเป็นใคร

        ทางด้านชายที่ขับวินมอร์เตอร์ไซต์ หลังจากรอดจากการทำร้ายร่างกายมาได้ เขาก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาบอกว่าเขาเพียงแค่ต้องการทำงานและหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวของเขาเพียงเท่านั้น เขาเองยังต้องมีลุกมีเมียที่ต้องดูแล การที่เขาจะรับผู้โดยสารเขาไม่ได้สนใจว่าใครจะใส่เสื้อสีอะไร  และเขาไม่เคยเข้าข้างหรืออยู่ฝ่ายไหน  ที่สำคัญเขาเองก็ไม่ได้อยากเห็นคนไทยด้วยกันมาทำร้ายกันเองแบบนี้  ซึ่งเขามองว่าสถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้มีหลายอย่างที่ควรจะต้องเร่งแก้ไข ไม่ว่าจะเรื่องปากท้องของประชาชน เรื่องปัญหาที่ตอนนี้มีพายุเข้า จนน้ำท่วมหลายพื้นที่ และยังปัญหาไวรัสระบาดอีก ดังนั้นควรแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก่อนจะดีที่สุด 

         อย่างไรก็ตามเมื่อคลิปการลุมทำร้ายของกลุ่มชายเสื้อเหลืองได้เผยแพร่ออกมา ก็ทำให้คนในโลกออนไลน์ที่ได้เห็นคลิป ต่างก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจกลุ่มคนเสื้อเหลืองมากที่มาทำร้ายคนทำมาหากิน แบบนี้  ซึ่งการออกมาชุมนุมนั้นเป็นสิทธิที่ทุกคนทำได้ แต่การชุมนุมต้องชุมนุมแบบสันติไม่ควรทำร้ายร่างกายกัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยออนไลน์

พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ บวชได้รับฉายา “อภิรัชตโน”

ซึ่งวัดนี้เราจะพาทุกคนไปที่วัดหงส์รัตนารามย่านบางกอกใหญ่กรุงเทพหรือว่าฝั่งธนเพราะว่าที่วัดแห่งนี้ในขณะนี้อดีตผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ท่านจะพึ่งเกษียณได้เข้ามาบวชอยู่ที่แห่งนี้ถึงสองท่านและทำไมถึงจะต้องเป็นที่วัดแห่งนี้ทหารตำรวจเขาได้มีความเคารพและศรัทธาวัดแห่งนี้มาก

โดยท่านอดีตผู้บัญชาการทหารบก พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ท่านได้มีตำแหน่งเป็นรองราชเลขาพระราชวงศ์ด้วยท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเรียบร้อยแล้วที่วัดแห่งนี้

นอกจากเมื่อเช้าที่ผ่านมาตอนตี5ก็ได้เข้าอุปสมบทแล้วก็ได้มีท่านเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามเป็นพระอุปัชฌาย์ทำพิธีอุปสมบทให้ตั้งแต่ตี5และอีกท่านหนึ่งที่เดินข้างๆกันก็คือท่านตำรวจผู้บัญชาการแห่งชาติพลตํารวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดาท่านก็ได้เข้ามาบวชก่อนหน้านี้แล้วก่อนวันที่30กันยายน

เมื่อเช้าที่ผ่านมาก็มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดผู้บัญชาการทหารเรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติท่านปัจจุบันก็ได้เข้ามาร่วมนพิธีด้วย พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ หลังจากเข้าพิธีอุปสมบทเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านได้รับฉายาทางพระก็คือ “ อภิรัชตโน “ แปลว่าผู้มีพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง

ในขณะเดียวกันทางพลตํารวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดาอดีต ผบ. ตร. ที่ท่านได้อุปสมบทไปแล้วก่อนหน้านี้ท่านก็มีฉายาว่าพระจิตติชัยโยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพระอภิรัชตโนพร้อมพระจิตติชัยโยท่านก็ได้เดินออกจากพระอุโบสถ์แล้วก็ทำวัดเช้ามีคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ที่เดินทางมากราบด้วยในวันนี้ตลอดทั้งวันท่านก็ได้ทำกิจของสงฆ์ตามปกติมีเรียนรู้สึกษาพระธรรมทำวัดเย็นช่วง17.00ถึง18.00นาฬิกาที่ผ่านมา

นอกจากนี้พระอภิรัชตโนท่านได้ใช้โอกาสอยู่หลังเกษียณราชการเมื่อ30กันยายนที่ผ่านมาเข้าอุปสมบทท่านก็บอกว่าท่านตั้งใจถวายเป็นราชกุศลแด่ในหลวของแผ่นดินรัชกาลที่9และท่านก็ยังไม่มีกำหนดลาสิกขา

ในขณะที่อดีต ผบ.ทบ. ท่านยังไม่มีกำหนดลาสิกขาและในขณะที่พระจิตติชัยโยท่านอดีต ผบ.ตร.ท่านได้มีกำหนดพระจิตติชัยโย23ตุลาคม

สำหรับวัดหงส์รัตนารามที่อดีตผู้บัญชาการทหารบกและอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เลือกเป็นสถานที่อุปสมบทเป็นเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวิหารโดยมีพระครูที่เป็นพระสอนคติธรรมประจำวัดท่านได้บอกว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่คู่ฝั่งธนบุรี

ซึ่งได้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเดิมเรียกว่าวัดหัวหงส์หัวก็แปลว่าคนเฒ่าคนแก่ตั้งตามชื่อเศรษฐีชาวจีนผู้สร้างวัดคือนายหงส์หรือว่าเจ้าสัวหงส์ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  dewabet

เพนกวินบุกเมืองลพบุรีแสดงจุดยืนประชาธิปไตย

เมื่อเวลา17.55นาทีกลุ่มทหารเอกพระนารายณ์ที่มีสมาชิกอยู่ประมาณ10กว่าคนได้ตั้งแถวร้องเพลงชาติแล้วใช้โทรโข่งประกาศว่าเชิญน้องๆตามสบายกูกลับล่ะ

หลังจากนั้นนักศึกษาก็ได้ทำตามจุดประสงค์ตามที่ตั้งเอาไว้โดยมีผู้รับฟังประมาณ300คน “ เชิญน้องๆตามสบายกูกลับล่ะ “ (มาแสดงเรียบร้อยกลับไปเบิกเงินได้แล้ว)เรื่องราวดังกล่าวได้บอกว่านายเพนกวินได้เชิญชวนพี่น้องลพบุรีให้ไปร่วมชุมนุมใหญ่19กันยายน ที่มหาลัยธรรมศาสตร์

เมื่อเวลา16.30นาที วันที่13กันยายน ที่บริเวณวงเวียน สมเด็จพระนารายณ์มหาราชใกล้กับศาลากลางจัวหวัดลพบุรี 16.30นาทีที่13กันยายน ที่บริเวณวงเวียน สมเด็จพระนารายณ์มหาราชผู็สื่อข่าวได้มีรายงานว่ามีกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาได้ใช้ชื่อว่ากลุ่มพลเมืองลพบุรีประชาธิปไตยไม่ก้มหัวให้เผด็จการประกอบไปด้วยนักเรียนนักศึกษาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ลพบุรีและมัธยมศึกษาได้รวมตัวแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาล พร้อมเรียกร้อง สามข้อคือ เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่และหยุดคุกคามประชาชน

นอกจากนี้ก็ได้มีแกนนำของกลุ่มต่อต้านเผด็จการได้เดินทางมาสมทบและได้ทำการขึ้นปราศรัยทั้ง แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ หรือ นายไชยอมร นายสมยศ นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน 

ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่าขณะเดียวกันมีกลุ่มลพบุรีอีกกลุ่มหนึ่งประมาณ10คนได้เดินทางมาคัดค้านการจัดกิจกรรมบริเวณดังกล่าวโดยได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรลพบุรีเข้าระงับเหตุเพื่อป้องกันการปะทะกันของทั้งสองกลุ่มท่ามกลางของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลนักศึกษาที่ทยอยเข้ามาสมทบอย่างต่อเนื่อง

โดยนายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ได้กล่าวว่า วันนี้รูสึกดีมากที่ได้มาพบกับพี่น้องชาวลพบุรีซึ่งเมือลพบุรีได้เป็นเมืองทหารจะมาย้ำว่าทหารสมควรที่จะอยู่เคียงข้างประชาชนจัดชุมนุมอย่างสนติวิธีไม่มีอาวุธและมาเชิญชวนพี่น้องประชาชนเมืองพลบุรีให้ได้รวมตัวกันในวันที่19กันยายน 

ซึ่งจะมีงานใหญ่ที่มหาวิทยาลัยที่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ตั้งแต่เวลา14.00น.ในวันดังกล่าวโดยยังยืนยันกิจกรรมเหมือนเดิมไม่มีความรุนแรงอย่างแน่นอนเพราะฝ่ายเราไม่มีอาวุธถ้าจะมีความรุนแรงก็จะมาจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียวเรามีแผนด้านรักษาความปลอดภัยเรียบร้อยแล้วขอให้ไว้วางใจนี่ก็เป็นเรื่องราวที่ได้มีการนำมาเสนอ

สำหรับในลายละเอียดในการปราศรัยของเพนกวินเราไปดูกัน “ขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวลพบุรีที่ได้ทำการต้านรับผมอย่างอบอุ่นเวทีนี้อบอุ่น แม้ว่าจะมีกลุ่มคนในบางกลุ่มที่ได้เข้ามาป่วนเราในตอนแรกแต่ก็ไม่เป็นไรแต่ผมก็นับถือใจอย่างย้อยก็ถือว่ายังกล้ามาวันนี้เมืองลพบุรีเป็นเมืองทหารเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาพูดเรื่องประชาธิปไตยกลางดงทหารผมไม่ใช่คนลพบุรีแต่ผมมาครั้งแรกผมเข้าใจว่าทั้งสี่ทิศเป็นค่ายทหารทั้งหมดเลยถ้าเสียงของผมดังไปถึงที่โรงนอนก็ขอให้นอนรับฟังไปด้วย ท่านจะได้ไม่ต้องไปทำรัฐประหารอีก

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  betbbthai

น.ศ.เตรียมเดินขบวนไปทำเนียบหลัง19กันยายน

วันนี้ที่สภาได้เกิดเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งเมื่อวานนี้ได้มีญัตติของ99สส. ซึ่งก้าวไกลรวมไปถึงพรรคฝ่ายค้านทั่งหมดได้ลงชื่อรวมกันยกเว้นพรรคเพื่อไทยแล้วก็มีพรรคประชาธิปัตภูมิใจไทยรวมถึง สส. ชาติไทยพัฒนารวมด้วยในการจะตัดอำนาจของ250 สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี

ปรากฎว่าตลอดทั้งวันนี้ในช่วงเช้านั้นบิ๊กรัฐบาลหรือขาใหญ่รัฐบาลได้มีการกดดันจนกระทั่ง สส. ที่เปิดเผยแล้วอย่างน้อยก็3คนจากชาติไทยพัฒนาหนึ่งคนคุณสุรทินจากพรรคภูมิใจไทยไปหนึ่งคนและพล.ต.ทรงกลดได้มีการถอนตัวไปจึงทำให้มีจำนวน  สส. จาก99คนได้หายไป

โดยเบื้องต้นคือ6และได้มีรายงานว่ามีพรรคประชาธิปัตอีก5ได้หายตัวไปและทั้งหมด99คนนั้นคือจำนวนขั้นต่ำสุดที่จะเปิดญัตติได้เมื่อ99คนหายไปอย่างน้อย3หรือมันอาจจะถึง8จำนวนญัตติที่จำเป็นที่จะต้องใช้เสียงของ สส.ก็คือ98ก็ตกไปทันทีเป็นสัญญาณของเผด็จการรัฐสภาเรียบร้อยแล้วเอกสิทธิ์ของ สส. ในการตรวจสอบ

ในการยื่นญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นถูกคุกครามจากบิ๊กรัฐบาลที่มีความกังวลต่อการอยู่ในอำนาจ ครม. ของตัวเองมากกว่าจะเปิดโอกาสให้สภาได้ทำงานอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ในบรรยากาศของกลไกลสภาที่เพื่อไทยที่ก้าวไกลที่ฝ่ายประชาชนอยากเห็นในการนำเอาประเทศออกจากความขัดแย้งนั้น

แม้กระทั่งเรื่องง่ายๆอย่าง250สว. รัฐบาลนายประยุทธ์ได้ประกาศอย่างขัดเจนแล้วว่าไม่ยอมให้มีการแก้ไขและที่เลือกก็คือการเล่นละครแสดงเก่งเป็นละครที่ลวงโลกเท่านั้นต่อไปแล้วและจะต้องจับตามองดูว่าในญัตติของเพื่อไทยนั้นจะถูกนายประยุทธ์สกัดขัดขวางเมื่อไร

เกมการเมืองในเวลานี้เกมการเคลื่อนไหวหลักจึงกลับไปอยู่ที่นอกสภาที่จะต้องยอมรับว่าความเคลื่อนไหวของนักเรียนและนักศึกษาประชาชนนั้นคือปัจจัยหลักที่รัฐบาลนายประยุทธ์ที่เป็นคนให้กำเนิดรัฐธรรมนูญ2560ตั้งกติกาที่นายประยุทธ์ตั้งวุฒิสมาชิก250คนมาเลือกตัวเองเป็นนายกเลี่ยงต่อการถูกแก้ไขมากที่สุด

ณ วันนี้สถานการณ์ทางสภาน่าเป็นห่วงเพราะเผด็จการรัฐสภาฝั่งรัฐบาลปิดโอกาศที่จะตัดอำนาจของ250 สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรีไปเรียบร้อยแล้วคำถามคือนักเรียนนักศึกษาจะทำอย่างไรต่อไป

แน่นอนว่าในช่วงที่ผ่านมานั้นได้มีการชุมนุมของนักศึกษาอย่างต่อเนื่องและในทิศทางการการชุมนุมนั้นได้มีประชาชนเข้ามารวมกันมากขึ้นเรื่อยๆจากเยาวชนปลดแอก18กรกฎาคม สู่ประชาชนปลดแอก16สิงหาคม ขยายไปทั่วประเทศไม่หยุดยั้ง

แม้กระทั่งม๊อบนักเรียน19กันยายนนัดหมายครั้งสำคัญของการชุมนุมคราวนี้จัดโดยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้ประกาศไปเรียบร้อยแล้วว่า19กันยายน เจอกันแน่นแต่ทันทีที่มีการคว่ำญัตติการตัดอำนาจวุฒิสมาชิกในการเลือกนายกโดย สส. ฝ่ายรัฐบาลมาถอนญัตติจนญัตติล่มนั้น

วันนี้นักศึกษาได้แถลงข่าวว่านอกจากชุมนุม19กันยายนจะเกิดขึ้นแน่นๆแล้วนั้นพวกเขาก็จะยกระดับไป2ข้อ ข้อที่1จะเป็นการชุมนุมค้างคืนด้วย

 

 

สนับสนุนโดย  หวยลาวชุด 120

ขยะอันตราย บักตูบ โดนเทไม่เอานายกสมองกลวง

เมื่อเวลาของนายประยุทธ์ใกล้จะหมดลงแล้วหลายฝ่ายได้เห็นพร้อมว่าต้องหันหน้าหนีจากผู้นำที่บริหารประเทศห่วยๆแบบนี้และสมควรที่จะเททิ้งได้แล้ว

จากปรากฎการณ์ที่บ้านเมืองเป็นอยู่ทุกวันนี้มันแสดงให้เห็นการบริหารงานของรัฐบาลที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้

โดยในวันนี้พรรคก้าวไกลได้ยื่นหนังสือต่อประธานสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและในวันเดียวกันกลุ่มพวก60สว.ก็ได้มีการประชุมหาลือกันแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะที่ประชาชนชาวบ้านร้านประหลาดก็บ่นเ็นเสียงเดียวกันว่าวิกฤตเศรษฐกิจปีนี้แย่มากที่สุดในประวัติศาสตร์

นอกจากนี้เราจะขอยกตัวอย่างของคุณใบตองแห้งมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกันกล่าวว่าดูท่าทีว่านายประยุทธ์กำลังจะโดนเทไม่ใช่แค่60สว.แต่ขนาดหมอผีหัวฟูยังเทเลยบ่งบอกได้ว่านายประยุทธ์อาการหนักเอาเรื่องอยู่นะจากนี้ยังมีพรรคประชาธิปัตพรรคร่วมก็ได้มาลงชื่อกับก้าวไกล อาทิศเสนอนายกคนนอกแม้เราไม่เอานายกคนนอกแต่มองอีกด้านก็คือเทนายประยุทธ์

ซึ่งรวมไปถึงความฝันของคนชั้นกลางของยุค ร.9 ที่ได้มีการยุติพฤษภาทมิฬแต่เมประยุทธ์แล้วจะทำยังไงนายกคนนอกก็จะหาใครเข้ามาไม่ได้ในสังคมไทยยังมีคนกลางเป็นที่ยอมรับอยู่อีกหรือ

รัฐบาลประหารนั้นมันสามารถที่จะทำได้ทุกเมื่อแต่ก็ไปไม่รอดมันจะทำให้การพินาศอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นทั้งระบอบแก้ปัญหาในสภาลาออกใครจะเข้ามาเป็นประชาธิปัตเน่าหมดแล้วอนุทินตัวตลกฝ่ายค้านก็ไม่ได้เป็นเหงไม่มีศักยภาพพอด้วยแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ใช้เวลานานมากวิกฤตไม่รอกระแสประชาชนก็ไม่น่าจะไม่ทนกับการตั้ง สสร. แบบพรรคร่วมรับบาล

สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นนั้นก็คือการดิสรัปชั่นของระบอบผู้ที่ดันทุรังมาจนสายเกินไปจนเกิดวิกฤตเกิดการลุกฮืออย่างที่อำนาจนั้นทำอะไรไม่ได้ก็ไขไม่ได้ต่อให้ทำการรัฐประหารกันเองสมมุติว่ามีทหารรัฐประหารโค้นนายประยุทธ์ก็แก้ปัญหาไม่ตกแก้วิกฤตไม่ได้ทำให้ประชาชนทั่วประเทศนั้นพอใจไม่ได้

นอกจากนี้มันก็หมดเวลาของนายประยุทธ์แล้ว ณ บัดนี้และดูเหมือนว่ามันจะเป็นการยุ่งยากมากในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ คสช. ได้ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเดิมและได้เขียนขึ้นมาใหม่และในวันเดียวกันนี้ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อจากพรรคก้าวไกลนำทีมยื่นญัตติร่างแก้รัฐธรรมนูญเพิ่มเต็มให้ยกเลิกมาตร272ของรัฐธรรมนูญของปี2560ว่าด้วยอำนาจของสว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อประธานสภา

ซึ่งในการยื่นครั้งนี้ได้มีการรับรองญัตติจาก99คนจาก13พรรคการเมืองโดยทั้งนี้พรรคก้าวไกลได้เปิดเผยว่ามี สส. จากประชาธิปัตและภูมิใจไทยร่วมลงชื่อรับรองญัตติด้วย

 

 

สนับสนุนโดย  ole777

นายประยุทธ์ลาออกเท่านั้นประเทศไทยสงบแน่นอน

สถานการณืทางการเมืองวันนี้ในสายตาของประชนวันนี้นายประยุทธ์ไม่ใช่นายกที่ประชาชนต้องการต้นทุนที่ต่ำจากปี2557ทบถมด้วยต้นทุนที่ติดลบไปอีกจากการเป็นนายกทั้งที่ฝั่งตัวเองไม่ได้ชนะการเลือกตั้งในปี2562

เพราะฉะนั้นบรรยากาศทางการเมืองทั้งหมดตึงเครียดเผชิญหน้าเมื่อวานนี้การจับกุมทนายอานนท์ และ ไมค์ ภานุพงษ์ เข้าเรือนจำเป็นสถานการณ์ที่หลายคนได้ประเมินว่าน่าจะทำให้อารมณ์ของประชาชนต่อกองทัพหรือต่อนายประยุทธ์ก็เริ่มมีทวีคูณความรุนแรงเพิ่มขึ้นมาไปอีกและอาจจะกลายเป็นสถานการณ์ดาบสองคมก็เป็นได้

ซึ่งในคมที่หนึ่งก็คืออาจจะทำให้ความไม่พอใจของประชาชนต่อรับบาลรุนแรงมากขึ้นจนกระทั่งการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่19กันยายน นั้นได้มีผู้ชุมนุมเป็นแสนอย่างแน่นอนและเป็นการชุมนุมที่ได้มีการเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ที่ถนนราชดำเนิน

โดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก18กรกฎาคม และกลุ่มประชาชนปลดแอกอีกเช่นเดียวกันในวันที่18สิงหาคม นั้นจำนวนประชาชนร่วมชุมนุมนั้นได้มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยอย่างไม่หยุดยั้งหลังจาก วันที่18สิงหาคม จนมาถึงปัจจุบันนั้นความตื่นตัวของประชาชนมีมากร่องรอยของการต่อต้านการต่อสู้กับอำนาจรัฐนั้นได้เกิดขึ้นแทบทุกจุด

เมื่อวานนี้ได้มีการรวมตัวของนักเรียนเตรียมอุดมพยายามจะปราศรัยต่อต้านเผด็จการตำรวจขับรถไปขวางไม่ให้คนนอกโรงเรียนไม่ให้โรงเรียนอื่นเข้าสู่ภายในโรงเรียนได้เด็กเตรียมจัดการปราศรัยภายในโรงเรียนส่วนเด็กโรงเรียนอื่นได้จัดทำการปราศรัยที่ด้านนอกของโรงเรียน

ซึ่งมันได้เป็นบรรยากาศอย่างที่เราไม่เคยพบเคยเห็นเด็กนักเรียนของแถวหน้าของประเทศต่อต้านเผด็จการตำรวจขัดขวางในที่สุดเด็กเตรียมปราศรัยในโรงเรียนส่วนเด็กโรงเรียนอื่นก็จัดปราศรัยด้านนอกรั้วของโรงเรียนแต่เป็นบรรยากาศของการเรียกร้องประชาธิปไตย เช่นเดียวกันกับ

เมื่อวานนี้เบญจมราชาลัยโรงเรียนหญิงชั้นต้นของประเทศได้มีกิจกรรมนักเรียนหญิงตั้งแต่มัธยมปลายไปจนถึงมัธยมต้นได้ผูกโบว์สีขาวชูสามนิ้วแล้วได้เอาตัวเองต่อแถวเป็นรูปสัญลักษณ์สามนิ้วประกาศว่า ( เผด็จการจงพินาศ  ประชาธิปไตยจงเจริญ ) 

นอกจากนี้ได้เป็นเผด็จการที่เป็นบรรยากาศที่เราไม่เคยเห็นมาในประเทศไทยอีกเหมือนกันนักเรียนหญิงล้วนน่าจะมีมัธยมต้นด้วยในกลุ่มซ้ายสุดได้เรียงแถวแปลอักษรของมนุษย์การชูสามนิ้วชูสัญลักษณ์ของการต่อต้านเผด็จการในสังคมไทย

สำหรับที่จังหวัดขอนแก่นก็ได้มีประชาชนออกมารวมตัววิพากษ์วิจารณ์การที่ตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับประชาชนรวมทั้งฝั่งตำรวจได้มีแนวคิดที่จะรื้ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทิ้งไปแล้วอย่าลืมไปว่าขอนแก่นนั้นคือเมืองหลวงของคนที่รักในประชาธิปไตยที่อีกสานชุมนุมเรื่องประชาธิปไตยที่ยุบสภาที่ไหนนั้นที่ขอนแก่นที่มหาสารครามบรรยากาศแทบแตก

ซึ่งพรุ่งนี้5กันยายน จะมีการชุมนุมที่กระทรวงศึกษาม๊อบนักเรียนเป็นม๊อบใหญ่ตอนนี้กลุ่มม๊อนนักเรียนที่จะมาชุมนุมที่หน้ากระทรวงศึกษานั้นเครือข่ายาโรงเรียนดังๆในกรุงเทพรวมกันแล้วประมาณ50แห่ง

 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบอล ฝากขั้นต่ำ100

รังสิตไม่ใช่ขี้ข้าเผด็จการ

ในวันที่2กันยายน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิตวันนี้ทางกลุ่มเยาวชนซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิตที่ได้ใช้ชื่อว่ากลุ่มรังสิตพยอมเก๋าเขาได้มีการจัดกิจกรรมกันที่นี่เพื่อที่พวกเขานั้นจะได้เรียกร้องจุดยืนและก็ได้ประกาศถึงสิ่งที่พวกเขานั้นอยากให้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาแบบนี้

นอกจากนี้ก็ยังมีนักศึกษาประชาชนอยู่หลายคนที่ได้นั่งกันอยู่โดยรอบๆพื้นที่ในบริเวณที่จัดงานและสถานที่บริเวณตรงนี้ได้เคยจัดกิจกรรมทางการเมืองกันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อในช่วงของต้นปีที่ผ่านมตอนนี้น่าจะเป็นกิจกรรมที่ได้จัดพร้อมกันในหลายๆมหาวิทยาลัยก่อนที่จะมีการเข้าสู่สถานการณ์โควิด-19

ซึ่งวันนี้เองก็ได้มีผู้ปราศรัยจากมหาวิทยาลัยอื่นและกลุ่มประชาชนจากภาคประชาชนของสังคมกลุ่มแรงงานได้เข้ามาร่วมปราศรัยในครั้งนี้รวมถึงนักเรียนจากกลุ่มนักเรียนเลวที่จะเข้ามาพูดถึงการปฏิรูปการศึกษาเราจะเห็นได้วว่าจะมีนักเรียนและนักศึกษาที่จะเข้ามาในพื้นที่นี้ได้ก็จะต้องมีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิก่อนรวมไปถึงรับเจลล้างมือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้เราก็ยังได้มีโอกาศได้พูดคุยกับผู้นำที่เกี่ยวกับจุดยืนของพวกเขาเห็นว่าได้มีข้อเรียกร้องทั้งหมด5ข้อด้วยกันเขาได้ใช้ชื่อว่ารังสิตไม่ใช่ขี้ข้ารับใช้เผด็จการจุดมุ่งหมายของเขามันจะต่างจากที่อื่นตรงที่ว่าจุดมุ่งหมายของเราไม่ใช่แค่การทวงคืนประชาธิปไตยของเรานั้นรังสิตต้องการ การเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยรวมต้องการหาทางออกร่วมกันไม่ใช่กีดกันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนี่ก็คือจุดหมายของพวกเรา

ซึ่งรังสิตก็ได้มีข้อเรียกร้องทั้งหมด5ข้อเรียกร้องด้วยกัน

หนึ่งการเรียกร้องให้ระบบรัฐสภาแก้ไขมาตรา256

สองการลบล้างผลพวงรัฐประหารก็คือมาตรา279ตามรัฐธรรมนูญที่รับรางให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติบรรดาประกาศคำสั่งใดๆถูก้องด้วยกฎหมายเราอยากให้ยกเลิก

สามเราสนับสนุนข้อเรียกร้องของคณะประชาชนปลดแอก

สี่เรื่องของ สว. เรื่องนี้ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากเขาไม่ได้มาจากพวกเราเขาไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะถอดถอนไม่ได้มีสิทธิ์เลือกเพราะฉะนั้นเราถือว่าท่านไม่ใช่ผู้แทนของเรา

ห้าเราต้องการให้สถานศึกษารวมไปถึงสถานที่อื่นๆเปิดพื้นที่ให้มีความแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างถูกต้องชอบทำอย่างสร้างสรรค์

เราเชื่อว่าประเทศนี้ไม่มีทางที่จะเจริญและจะพัฒนาขึ้นมาได้หากไม่เปิดโอกาศให้เยาวชนนั้นได้แสดงออกอย่างชอบธรรมและสร้างสรรค์

นอกจากนี้ในการจัดกิจกรรมต่างๆนั้นก็ถือได้ว่ามีอุปสรรคในช่วงแรกๆก็คือการประสานกับหน่วยงานของทางมหาวิทยาลัยแต่ว่าเราจะใช้โอกาศอย่างที่เราใช้กับคนอื่นๆก็คือเราจะใช้ทางออกร่วมกัน

 

 

ขอขอบคุณ  betbb  ที่ให้การสนับสนุน

บริษัทใหม่รับรปภที่ทำงานศูนย์ราชการจำนวน 234 คน

บริษัทใหม่รับรปภที่ทำงานศูนย์ราชการจำนวน 234 คนทั้งหมดกลับเข้าทำงานทำให้รปภต่างยิ้มออกเพราะไม่ต้องตกงาน 

        เมื่อวันที่ 1 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2563 มีรายงานข่าวออกมาจากศูนย์ราชการว่าจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 234 คนงานเนื่องจากว่าบริษัทที่มีการดูแลระบบรักษาความปลอดภัยเดิมไม่ได้ถูกต่อสัญญาจากทางศูนย์ราชการทำให้เมื่อวันที่ 1 เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแทนที่จะเป็นวันแรงงานที่พนักงานรักษาความปลอดภัยจะดีใจที่ได้เป็นวันหยุดและทำงานวันชดเชย

ซึ่งจะได้ค่าจ้างเป็น 2 เท่ากับต้องมานั่งเสียใจสลดหดหู่ต่างก็ต้องมาเข้าแถวเพื่อรับเงินก้อนสุดท้ายที่เป็นเงินเดือนหลังจากนั้นก็จะมีการถูกเลิกจ้างโดยเหตุผลในการเลิกจ้างในครั้งนั้นพบว่าเนื่องจากบริษัทที่มีการเปิดเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่คอยดูแลศูนย์ราชการถูกเลิกจ้างและมีการเปลี่ยนไปเป็นบริษัทใหม่ทำให้รปภทั้งหมด 234 คน

ตกงานทันทีเพิ่งมาคราวนี้มีการเผยแพร่ออกไปประชาชนที่ได้ติดตามข่าวนี้ต่างก็รู้สึกเสียใจและรู้สึกหดหู่ใจกับข่าวนี้กันเป็นอย่างมากโดยพนักงานรักษาความปลอดภัยหลายคนให้ข้อมูลว่าจะขอทำการสมัครทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยให้กับบริษัทใหม่ที่มารับช่วงต่ออีกครั้งหนึ่งเพราะถึงแม้ว่าจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนก็ไม่มีงานทำซึ่งกลับไปต่างจังหวัดก็ไม่มีเงินใช้จึงจะขอหางานทำอยู่ในกรุงเทพฯเหมือนเดิมในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งประมาณ 30% กับยินยอมที่จะรับเงินก้อนสุดท้ายแล้วเดินทางกลับไปที่บ้านเกิดเมืองนอนของตนเองคิดว่าหาเงินอยู่ที่นี่แล้วไม่มีงานทำก็เหมือนกับอยู่แล้ว

ทั้งหมดมันไปวันๆดังนั้นพวกเขาจึงยอมที่จะกลับไปหางานทำอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอนของตนเองแต่พอวันนี้วันที่ 2 พฤษภาคมปี 2563 รักษาความปลอดภัยทั้งหมด 234 คนต่างก็ได้รับข่าวดีทำให้พากันยิ้มออกเมื่อบริษัทที่มีการประมูลได้เป็นตัวแทนดูแลความปลอดภัยให้กับส่วนราชการได้ออกมาประกาศว่าพวกเขายินดีที่จะรับพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหมด 234 คน

มาทำงานที่บริษัทใหม่ของพวกเขาโดยบริษัทอินยันว่าจะมีการรับพนักงานทุกคนที่มาทำการสมัครซึ่งจากข้อมูลที่ออกมาในครั้งนี้ทำให้มีพนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวนทั้งสิ้น 224 คนเดินทางยื่นหนังสือเพื่อขอสมัครทำงานต่อที่เดิมและทางบริษัทที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับศูนย์ราชการที่เป็นบริษัทใหม่ได้มีการรับพวกเขาเหล่านั้น

เขาทำงานเรียบร้อยแล้วและส่วนที่เหลืออีกประมาณ 10 คนยืนยันที่จะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองซึ่งทั้งนี้พนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวน 224 คนให้สัมภาษณ์กับนักข่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ยังมีบริษัทอื่นๆที่ยังอยากช่วยเหลือพวกตนไม่ให้ต้องตกงานซึ่งเมื่อสมัครเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับบริษัท พนักงานทั้งสิ้น 220 4 คนก็สามารถทำงานต่อเนื่องได้เลยโดยมีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นมา

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  aesexy

ถูกทวงเงินแค่ร้อยกว่าบาททำหนุ่มใหญ่โมโหยิงเพื่อนคาวงเหล้า 

          ที่จังหวัดศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ตำรวจสภอุทุมพรพิสัยได้รับแจ้งเหตุมีการยิงกันเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งช่วงเวลาประมาณ 20:20 น.เหตุเกิดวันที่ 23 เมษายนปีพศ 2563   เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุก็พบศพนายอุปกรณ์นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่โดยบ้านหลังเกิดเหตุนั้นเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งชั้นบนจะเป็นทำด้วยไม้ส่วนชั้นล่างจะถูกสร้างด้วยปูนลักษณะของศพนั้นถูกปืนยิงถูกร่างกายจำนวน 4 นัดด้วยกัน

โดยนะที่ทำให้เสียชีวิตนั้นคือกระสุนปืนที่ยิงจากปากทะลุท้ายทอยออกไปในบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นพบมีร่องรอยการดื่มสุรากันเนื่องจากว่ามีขวดเหล้าวางอยู่และยังมีกับแกล้มวางอยู่เต็มไปหมดและคนที่ลงมือก่อเหตุยิงนายทิพากรนั้นซึ่งขนาดนั้นยังนั่งรอมอบตัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ไม่ได้หนีไปไหนแต่อยู่ในลักษณะของอาการมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่องโดยทางเจ้าของบ้านแจ้งว่าตนเอง

ชื่อนายณรงค์ซึ่งเขายอมรับว่าก่อนเกิดเหตุนั้นเขาและผู้ตายได้ชักชวนกันมากินเหล้าที่บ้านหลังจากนั้นก็มีการพูดจากันแล้วเกิดพูดจาผิดหูกันซึ่งมีบางช่วงที่นายทิวากรได้มีการทวงเงินประมาณ 100 กว่าบาททำให้เขาซึ่งขนาดนั้นอยู่ในอาการมึนเมาเกิดความไม่พอใจจึงได้ไปนำปืนออกมาสิ่งไหนที่ประกอบจนเสียชีวิต  

จากการสอบถามญาติของผู้ก่อเหตุชื่อว่านายบัวพันธ์ทราบว่าทั้งนายณรงค์และนายทิพากรนั้นต่างก็เป็นญาติพี่น้องกันซึ่งในที่พักรนั้นเป็นหลานชายของนายณรงค์ปกติแล้วทั้งสองคนก็จะชักชวนกันมากินเหล้าเป็นแบบนี้ประจำทุกวันอยู่แล้วโดยในวันที่เกิดเหตุนั้นช่วงประมาณ 19:00 นนายบัวภานยังเห็นว่าทั้งสองคนยังนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่หน้าบ้านซึ่งบ้านของนายบัวพันนั้นอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุแค่เพียง 50 เมตรเท่านั้น

โดยช่วงที่มีการยิงกันนั้นในบัวพันเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 5 นัดแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเนื่องจากว่าโดยปกติแล้วเมื่อทั้งคู่กินเหล้าเมาแล้วก็มักจะเอาปืนออกมายิงขึ้นฟ้าเล่นอยู่บ่อยครั้งจึงไม่ได้สนใจเมื่อได้ยินเสียงปืนแต่หลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาทีภรรยาของนายบัวผันซึ่งตอนนั้นออกไปทำธุระข้างนอกได้ออกมาบอกนายบัวพันว่านายณรงค์ใช้อาวุธปืนยิงนายทิพากร

จึงทำให้นายประพันธ์โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดูส่วนทั้งสองคนจะทะเลาะกันเรื่องอะไรนั้นนายบัวพันธุ์บอกว่าไม่ได้สนใจอะไรไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเพราะว่าไม่อยากจะยุ่งกับคนทั้ง 2 คนเนื่องจากว่าเวลาเมาชอบโวยวาย ต้องเสียงดังนั้นเองจึงไม่อยากไปยุ่งด้วยส่วนเรื่องของการประกันตัวในนรกนั้นทางไหนบัวพันเองยืนยันว่าจะไม่ประกันตัวอย่างแน่นอนเนื่องจากว่าไม่มีเงินมากพอ

 

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์บาทละ 1000

หมอรักษาอาการโดนคุณไสย  โดนประจานว่าทำอนาจารคนป่วย

        ที่จังหวัดตราด มีชาวบ้านได้ออกมาเล่าลือถึงวิธีการขับไล่คุณไสย ของหมอไสยศาสตร์คนหนึ่งซึ่งเขาเป็นชาวจังหวัด กาญจนบุรี ชื่อว่า นายสายนต์ ซึ่งนายสายนต์ได้เดินทางมาที่จังหวัดตราด และได้มาเปิดสำนักรักษาคนที่โดนคุณไสย ซึ่งเรื่องราวที่เกิดเป็นเรื่องโด่งดังในครั้งนี้ก็เพราะว่า มีการเผยแพร่คลิปขั้นตอนการรักษาอาการโดนคุณไสยด้วยการเอามือจับหน้าอกและจับจิ๋มของหญิงสาวที่มารักษาอาการโดนคุณไสย

ทำให้ชาวบ้านต่างพากันพูดถึงเรื่องวิธีการรักษาอาการคุณไสยในครั้งนี้กันอย่างกว้างขวาง   ซึ่งเมื่อวันที่ 10 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2563   นายสายนต์ก็ได้ มารักษาชาวบ้านอีก 3 คนที่มีอาการป่วยเพราะว่าโดนคุณไสย ซึ่งทั้งสามคนนั้นเป็นผู้ชายทั้งหมด

  ซึ่งมีคนจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางมาถึงที่จังหวัดตราดเพราะต้องการมากรักษากับนายสายนต์ รวมถึงยังมีคนกรุงเทพอีกสองคนต่างก็พากันเดินทางไปหานายสายนต์ถึงที่จังหวัดตราดเพียงเพราะต้องการให้นายสายนต์รักษาอาการโดนคุณไสยให้   โดยการรักษาคนที่โดนคุณไสยนั้น นายสายนต์บอกว่าจะมีการอาบน้ำมนต์ให้ และจะใช้มีดหมออาคมจี้ไปตามจุดต่างต่างในร่างกายเพื่อที่จะได้ไล่คุณไสยออกจากตัวคนป่วยได้

โดยนายสายนต์บอกว่าเขาคิดค่าครูในการรักษาเพียงแค่คนละ 32 บาทเท่านั้น ไม่เคยคิดเงินด้านอื่นเพิ่มเลย แต่ส่วนใหญ่แล้วเมื่อมีคนติดต่อมาขอรักษาอาการโดนคุณไสยแล้วพวกเขาหายดี พวกเขาก็จะนำเงินกลับมาตอบแทนตนในภายหลัง โดยเขายืนยันได้ว่าไม่เคยเรียกร้องเงินทองกับชาวบ้านเลย

  สำหรับเรื่องราวก่อนที่จะมาเป็นหมอปราบคุณไสยนั้น นายสายนต์เล่าว่าเดิมที่เขามีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่เขาประสบอุบัติเหตุที่มีความรุนแรงมากตั้งสามครั้งแต่เขาก็รอดมาทุกครั้งทำให้เขาสงสัยว่าเพราะอะไร จนมีหมอบอกว่าตัวเขานั้นมีองค์เทพคอยปกป้องนับแต่นั้นเขาจึงไปทำการร่ำเรียนวิชาทางด้านไสยศาสตร์และหลังจากร่ำเรียนจบมาแล้วเขาก็ออกมาเปิดสำนักรักษาชาวบ้าน 

ซึ่งเขาเองรักษาคนป่วยมาแล้วหลายคนและทุกคนต่างก็หายจากอาการป่วยทั้งที่พวกเขาเหล่านั้นต่างก็เคยไปรักษากับหมอที่โรงพยาบาลมาแล้ว แต่ไม่หายสักที แต่พอมารักษากับตนแล้วหายทำให้ การรักษาของเขากลายเป็นการสร้างชื่อเสียงให้เขาโด่งดังไปทั่ว ส่วนเรื่องที่บอกว่าเขารักษาคนป่วยผู้หญิงแล้วทำอนาจารหรือข่มขืนคนป่วยนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริง มือถือ