เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังจะเปิดเมืองอีกครั้งในวันที่ 8 มิถุนายน นี้

     สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกานั้นเป็นประเทศที่กำลังประสบปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่ามากที่สุดอยู่ในขณะนี้โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างเมืองนิวยอร์กซิตี้ซึ่งมีประชากรหนาแน่นและเป็นเมืองที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ามากที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเองอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในขณะนี้นั้นที่นิวยอร์กจะมีจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ามากกว่า 2 แสนคนแล้ว

ในตอนนี้นั้นปางช้างเมืองนิวยอร์คต้องการที่จะให้รัฐบาลนั้นช่วยทำการปลดล็อคมาตรการต่างๆเพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติซึ่งทางผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กไม่ออกมาเลยมีข้อกำหนดในเรื่องของการเปิดมือในครั้งนี้ว่าถ้าเมืองนิวยอร์กนั้นจะต้องมีสถานพยาบาลที่สามารถรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้เพียงพอ

ซึ่งถ้าหากสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ภายในวันที่ 8 มิถุนายนนี้นิวยอร์กก็จะกลับมาสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกตินั่นเองอย่างไรก็ตามหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าถึงแม้จะมีการออกมาตรการออกมาเรื่องของการจัดสรรเตียงให้กับผู้ป่วยไวรัสโคโรน่านั้นในท้ายที่สุดแล้วยังไงจ๊ะทางผู้ว่ารัฐนิวยอร์กของประเทศสหรัฐอเมริกาก็ต้องอนุมัติให้นิวยอร์กนั้นผ่อนปรนมาตรการการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าได้อยู่ดีนั่นเอง 

         สำหรับการเปิดเมืองของนิวยอร์กในครั้งนี้นั้นจะเป็นการเข้าสู่มาตรการในระยะที่ 1 ก่อนซึ่งจะเป็นการเปิดให้ธุรกิจต่างๆได้กลับมาเปิดกิจการได้ตามปกติแต่ยังจะต้องมีการควบคุมเรื่องของการทำความสะอาดการฆ่าเชื้อโรคตามสถานธุรกิจต่างๆเพื่อที่จะได้ให้เศรษฐกิจของเมืองนิวยอร์กนั้นสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้โดยถ้าหากว่าหลังจากที่มีการปลดล็อคในระยะที่ 1 แล้วผลปรากฏว่าผ่านไปด้วยดีก็จะมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ตามลำดับนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามเมืองนิวยอร์กนะเนี่ยมีประชากรหลายคนที่ยังมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและยังไม่มีแนวโน้มว่าจำนวนผู้ติดเชื้อนั้นจะลดลงแต่อย่างใดแต่ประชาชนในนิวยอร์กนั้นก็ออกมาประท้วงกันเพื่อต้องการกลับมาใช้ชีวิตกันเหมือนเดิมแล้วซึ่งหลายคนนั้นไม่กลัวเรื่องของการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

อย่างไรก็ดีถ้าหากชาวเมืองนิวยอร์กนั้นร่วมแรงร่วมใจกันในการสวมใส่หน้ากากอนามัยรวมถึงมันล้างมือบ่อยๆใช้แอลกอฮอล์ล้างมือก็น่าจะสามารถควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าได้แค่ในปัจจุบันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมีใครสนใจในการดูแลสุขภาพแบบนี้มากนักโดยการมองว่าคนที่สวมใส่หน้ากากอนามัยนั้นคือคนที่ไม่สบายดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงมักไม่ค่อยสมใส่หน้ากากอนามัยครั้งที่มีประกาศออกมาจากทางรัฐบาลให้ร่วมแรงร่วมใจกันก็ตามจึงทำให้สถานการณ์ของการระบาดในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงยังคงค่อนข้างสูงมากกว่าประเทศอื่นๆนั้นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนันดีที่สุด