การขัดแย้งสองเจ้าพ่อภาคตะวันออก

นอกจากนี้ยังได้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของยุทธจักรเจ้าพ่อในภาคตะวันออกในคดีฆ่าตำรวจและผลของวิบากกรรมของ กำนั้นเป๊าะ ในส่วนของคดีจ้างวานฆ่าได้กำลังส่งผลสะท้อนให้กับกำนันเป๊าะอย่างรุนแรงอย่างที่ กำนันเป๊าะนั้นไม่เคยได้พบเจอมาก่อนและมรสุมครั้งสำคัญที่ต้องทำให้เขาต้องหนีนอกจากการเติบใหญ่ของอาณาจักรคุณปลื้มทางด้านธุรกิจ กำนันเป๊าะยังมีเส้นทางการเมืองโลดแล่นอย่างน่าสนใจปี 2511 ได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแสนสุข ปี2526 ขยับเป็นกำนัน ตำบลแสนสุข จนกระทั่งปี2531

หลังจากยกฐานะตำบลแสนสุขกลายเป็นเทศบาล กำนันเป๊าะ จึงขยับมาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข เขาสร้างผลงานมากมายจนทำให้ชลบุรีเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษกิจ นอกจากนี้เขาคือผู้อยู่เบี้องหลัง และให้การสนับสนุนการเมืองจากภาคตะวันออกหลายพรรคหลายคน และมากกว่านั้นเขายังสร้างหายาทอยู่ในแวดวงการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับชาติ เมื่อวันที่9มีนาคม ปี 2546 กำนันประยูร สิทธิโชติ ผู้กว้างขวางอีกรายแห่งเมืองชลถูกมือปืนจ่อยิงอย่างเฮียมโหดกลางงานเลี้ยงงานแต่งงานลูกสาวเพื่อนสนิด

หลังก่อเหตุมือปืนก็ได้หลบหนีไปอย่างลอยนวลพร้อมปนปริศนาที่ว่างานนี้เขาบงการและเนื่องจากคดีนี้เป็นเหตุอุกอาจ ซึ่งได้เกิดขึ้นในพื้นที่ของผู้ที่มีอิทธิพลเจ้าหน้าที่จากกองปราบปรามกองบันชาสืบสวนกลางได้ระดมกำลังเพื่อเข้าคลี่คลายคดีหลังได้รับคำสั่งให้สืบสวนในทางลับไม่นานตำรวจชุดคลี่คลายคดีก็ได้จับกุมนายพสิษฐ์และนายธนาวุฒิ มือปืนในเครือข่ายผู้กว้างขาวงแห่งภาคตะวันอกได้แต่หลักฐานหรือคำให้การใดที่ทำให้ตำรวจเชื่อได้ว่าสองผู้ต้องหานี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หลังสอบปากคำคำสารภาพก็ได้เผยเรื่องราวการขัดแย้งของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคบูรพาไปสู่ต้นเหตุของปมมรณะในวันที่3สิงหาคม2545 พ.ต.ท. ไชยันต์ วิชัยดิษฐ์ อดีตรองผู้กำกับการ5กองบังคับการตำรวจภูธรภาค2ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตที่ชายหาดบางแสน

ซึ่งพ.ต.ท. ไชยันต์ วิชัยดิษฐ์ ถือว่าเป็นคนสนิดมากที่สุดของ กำนันเป๊าะ ในวงการนักเลงทุกคนฝ่ายรู้ดีว่าพ.ต.ท. ไชยันต์ วิชัยดิษฐ์ถูกกลุ่มของนายประยูร สิทธิโชติหรือกำนันยูรเป็นผู้สังหารหลังเกิดเหตุกำนันยูรแอบไปหลบพักอาศัยผู้ที่มีอิทธิพลทางภาคเหนือฝ่ายรู้กำนันยูรจะต้องถูกตามล้างแค้นจากกลุ่มของพ.ต.ท. ไชยันต์ วิชัยดิษฐ์อย่างแน่นอนโดยเฉพาะหากได้รับไฟเขียวเจ้าพ่อภาคตะวันออกชีวิตของกำนันยูรก็เหมือนกับลูกไก่ในกำมือแต่กำนันยูรเองก็ไม่ใช่คนที่สิ้นไร้ไม้ต่อมีการนับเจรจาและเคลียร์ปัญหาคาใจกับเจ้าพ่อภาคตะวัออกหลายครั้งจนสามารถกลับเข้าสู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีได้

แต่แล้ว9มีนาคมที่ผ่านมาก็เกิดเหตุสองคนร้ายบุกเข้ายิงกำนันยูรกลางงานแต่งงานการสังหารกำนันยูรในครั้งนี้เองทำให้วงกรนักเลงตั้งข้อสังเกตุไว้มากมายเพราะรูปแบบการสังหารและการใช้อาวุธปืนของคนร้ายรวมทั้งการหลบหนี

สามีโกรธครอบครัวอดีตเมียห้ามไม่ให้เจอลูก

สามีโกรธครอบครัวอดีตเมียห้ามไม่ให้เจอลูกบุกสังหารยกครัวตายทั้งหมด 4 ศพ

     ที่จังหวัดกาญจนบุรีช่วงกลางดึกคืนหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีครอบครัวหนึ่งถูกคนร้ายบุกเข้ามายิงจนเสียชีวิต  โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 4 คนซึ่งในครั้งแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้เสียชีวิตเป็นชายแก่และหญิงแก่ซึ่งทราบว่าเป็นพ่อแม่และเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุโดยบุคคลที่เล่าเรื่องราวให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังก็คืออดีตเมียของคนร้ายซึ่งเธอได้เล่าว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุนั้นเคยเป็นสามีของเธอมาก่อนแต่มีเรื่องผิดใจกันจึงเลิกลากันไปซึ่งเธอและผู้ก่อเหตุมีลูกด้วยกันอยู่ 2 คน

อยู่ในช่วงที่เกิดเหตุนั้นเธอได้นอนอยู่กับลูกสาวคนโตส่วนลูกสาวคนเล็กนั้นไปนอนกับปู่และย่าคนร้ายด้วยอาศัยจังหวะกลางดึกปีนขึ้นมาในห้องนอนของเธอและนำปืนมาขู่จะยิงเธอโดยมีช่วงหนึ่งที่คนร้ายเผลอเธอและลูกชิ้นวิ่งหนีออกไปให้ห้องข้างๆซึ่งเป็นห้องของน้องชายช่วยเหลือและล็อคประตูไม่ให้คนร้ายเข้าไปทำร้ายได้แต่ในระหว่างนั้นเองพ่อกับแม่ของเธอได้ออกมาดูเหตุการณ์พอได้ยินเสียงดังโครมครามรวมถึงลูกสาวคนเล็กที่ออกมาพร้อมกับปู่และย่าเมื่อก่อนหลายได้เห็นพ่อแม่ของเธอก็กระหน่ำยิงไปที่พ่อและแม่ของเธอจนถึงแก่ความตาย

เพราะคนร้ายมีความรู้สึกโกรธเคืองในตัวพ่อแม่ของเธอเป็นคนเดิมอยู่แล้วโดยเขาชื่อว่าพ่อกับแม่ของเธอกีดกันไม่ให้คนร้ายได้เจอหน้าลูกทั้งสองคนซึ่งมีกระสุน 1 ไปโดนลูกสาวคนเล็กของเธอด้วยและระหว่างที่คนร้ายยิงปู่กับย่าเสียชีวิตแล้วเขาก็ได้อุ้มลูกสาวออกไปจากสถานที่เกิดเหตุซึ่งตอนนี้คนในบ้านไม่รู้ว่าคนร้ายหนีไปทางไหนหลังจากทราบเรื่องราวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกเดินตามหาบริเวณรอบๆบ้านที่เกิดเหตุจนเดินมาพบรอยเลือดอยู่ทางด้านหลังบ้านหยุดตรงไปทางยุ้งข้าวซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทันทำอะไรก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลังจากเสียงปืนดังไปแล้ว

ก็ไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้นอีกเลยทั้งที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไปยามเรียกจะมีการพังประตูเข้าไปจึงพบว่าคนร้ายได้ ยิงตนเองเสียชีวิตและลูกสาวคนเล็กที่คนร้ายอุ้มมาด้วยนั้นก็เสียชีวิตด้วยซึ่งทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าระหว่างที่คนร้ายอุ้มตัวลูกสาวออกมานั้นน่าจะรู้ว่าลูกโดนยิงด้วยแต่ด้วยความเป็นเด็กจึงทนพิษบาดแผลไม่ไหว

และเสียชีวิตทำให้ผู้เป็นพ่อเสียใจที่เธอไปทำร้ายโดยที่ไม่ตั้งใจจนลูกถึงแก่ความตายดังนั้นผู้เป็นพ่อจึงทำการปลดชีวิตตนเองแต่ตามลูกไปเพราะจากการให้ปากคำของอดีตเมียของคนร้ายให้การว่าคนร้ายรักลูกสาวคนเล็กมากถึงขนาดแอบไปหาลูกสาวที่โรงเรียนอยู่บ่อยๆและคนร้ายมีการฝังใจว่าที่ครอบครัวไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะพ่อแม่ของเมียกีดกันจึงทำให้คนร้ายเกิดความเครียดและมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8

โจ๋กระหน่ำยิงปืนใส่อริหน้าวัดจันทร์ 

 มีเหตุการณ์วัยรุ่นกระหน่ำยิงปืนใส่กันหน้าวัดจันทร์  เพชรเกษม 48 ตรงกับท้องที่ภาษีเจริญในช่วงเวลา 4 ทุ่มตำรวจเดินทางไปพบปลอกระสืนปืนตกอยู่เกลื่นถนน ประมาณ 15-16 ปลอกมีหลายขนาด ทั้งขนาด.38  มีทั้ง 11 มิลลิเมตรและพบรอยกระสุนที่ยิงแนวระนาบ ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน คนแรกชื่อนายวิทยา

ส่วนอีกคนที่บาดเจ็บคือนาย วิชิต โดยผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่ามีใครยิงกันเสียงปืนรัวไปหมด ซึ่งอีกฝั่งหนึ่งขับรถมาประมาณ 7-8 คัน เมื่อวัยรุ่นที่ขับรถจักรยานยนต์มาถึงก็ยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังรัวรัว

ซึ่งวิถีกระสุนพุ่งตรงมาใส่ยังกลุ่มผู้บาดเจ็บ โดยผู้บาดเจ็บได้เล่าว่า ตนเองและเพื่อนเพื่อนมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพที่วัดจันทร์แห่งนี้  ซึ่งในตอนแรกมีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาสองคันก่อน โดยคนที่ขี่จักรยานยนต์สองคันนี้ขับรถเข้ามาในบริเวณวัดแล้วเข้ามาถามหาคนชื่อนายวิทยาและชื่อนายวิชิตว่าพวกมันอยู่ที่ไหน ซื่อวิทยาได้บอกกับกลุ่มวัยรุ่นที่มาถามว่านาย วิทยาและนายวิชิตอยู่ในงาน และหลังจากนั้นไม่นานก็มีรถจักรยานยนต์ขับตามมาสบทบกับสองคันแรกเพิ่มอีกหลายคัน

และยังมีรถยนต์ทะเบียน 7546 อีกด้วย ซึ่งนายวิทยาบอกว่าจำได้แต่ตัวเลข แต่ตัวอักษรจำไม่ได้ ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวเป็นสีขาว เหตุการณ์ในตอนนั้นชุลมุนมาก เพราะกลุ่มเด็กวัยรุ่นมีมากและแต่ละคนก็มีอาวุธปืนครบมือ

ซึ่งเท่าที่เห็นทุกคนถือปืนคนละกระบอกเลย และหลังจากที่กลุ่มวัยรุ่นลงมาจากรถก็ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าสองนัดแล้วหลังจากนั้นก็ยิงปืนในลักษณะแนวระนาบเข้ามาในวงเหล้า โดยยิงเข้ามาในวงเหล้าที่พวกเขากำลังยืนกินเหล้ากันอยู่บริเวณหน้าวัด ทำให้คนที่อยู่ในวงเหล้าต้องวิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุนเพราะกลัวตาย

และเมื่อหาสาเหตุว่าทำไมวัยรุ่นจึงต้องมายิง สาเหตุเกิดจากอะไร กลุ่มในวัยรุ่นมีปัญหากับคนที่อยู่ในวงเหล้านี้หรือเปล่า พอมาสอบสวนแล้วจึงพบว่าไม่ได้มีเรื่องกัน

แต่เรื่องเกิดจาก เสี่ยโป้ไปเที่ยวที่ประเทศลาวแล้วโดนไล่กระทืบซึ่งมีคนในกลุ่มของเสี่ยโป้โดนทำร้าย แล้วมีคนไปโพสต์ต่อว่าเสี่ยโป้ว่าทำไมไม่ดูแลลูกน้องซึ่งคนที่โพสต์เป็นเพื่อนกับลูกน้องของเสี่ยโป้ที่ถูกทำร้าย ทำให้ลูกน้องคนอื่นๆของเสี่ยโป้ไม่พอใจ จึงตามมายิงคนที่โพสต์  สรุปแล้วเหตุยิงกันเพราะลูกน้องของเสี่ยโป้ไม่พอใจคนที่มาโพสต์ต่อว่าเสี่ยโป้