หญิงสาวสุดช้ำเลี้ยงลูกวัย 4 เดือนเพียงลำพัง

หญิงสาวสุดช้ำเลี้ยงลูกวัย 4 เดือนเพียงลำพัง  สามีทิ้งไม่มีงานทำซ้ำยังไม่มีนมให้ลูกกิน

             จากกรณีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งได้ติดต่อขอความช่วยเหลือด้วยการโหลดข้อมูลลง Facebook บอกเล่าเรื่องราวของตนเองที่กำลังประสบปัญหาไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกินอยู่ในขณะนี้โดยทางนักข่าวเองได้มีการลงพื้นที่ไปหาหญิงสาวคนดังกล่าวซึ่งเธอมีชื่อว่าแหม่ม  โดยปัจจุบันแหม่มอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งเธอต้องเลี้ยงลูกวัย 4 เดือนเพียงลำพัง

ปัจจุบันเธอไม่มีบ้านให้อยู่อาศัยจำเป็นต้องมาขออาศัยอยู่กับเพื่อนและเนื่องจากเธอต้องเลี้ยงลูกจึงไม่ได้ออกไปหางานทำทำให้ตอนนี้เธอไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าวกินส่วนลูกของเธอนั้นก็ไม่มีนมกินเธอต้องแก้ขัดด้วยการนำน้ำตาลทรายมาละลายน้ำแล้วส่งให้ลูกกินแทนน้ำนมซึ่งเธอได้มีการโพสต์ขอความช่วยเหลือจากคนใจบุญให้ช่วยบริจาคนมผง

เพื่อมาช่วยเหลือลูกของเธอด้วยโดยเธอเล่าถึงสถานการณ์ของเธอในขณะนี้ว่าหลังจากที่เธอคลอดลูกมาสามีก็ทิ้งเธอไปทำให้เธอจำเป็นต้องเลี้ยงลูกอยู่เพียงลำพังทุกวันนี้ลูกของเธอต้องกินน้ำตาลทรายละลายน้ำเนื่องจากว่าน้ำนมของเธอนั้นไม่ไหลและหลังจากที่มีการโพสต์ขอความช่วยเหลือให้คนมาบริจาคนมผงให้ก็มีคนนำนมผงมาให้เธอ

ซึ่งคาดว่าเธอจะสามารถใช้เลี้ยงดูลูกน้อยของเธอได้ประมาณ 1 เดือนซึ่งหลังจากที่นักข่าวลงพื้นที่ก็ได้มีการประสานงานไปที่สสในพื้นที่เพื่อลงมาช่วยเหลือหญิงสาวคนดังกล่าวโดย ทาง  สส. ของภูเก็ตเองก็มีการนำเงินมาช่วยเหลือ พร้อมนำอาหารแห้งและข้าวสารรวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่จำเป็นในการดำรงชีวิตมามอบให้บางส่วนเพื่อให้ แหม่มสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้สักระยะหนึ่งก่อนซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการประสานงานกับหน่วยงานที่ดูแลผู้ที่มีปัญหาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าลงมาช่วยเหลือเพิ่มเติมให้ทางนักข่าวได้มีการสอบถามกับนายแพทย์กอล์ฟ

ถึงคุณค่าของน้ำตาลทรายที่ละลายน้ำให้ทารกกินนั้นเหมาะสมหรือไม่ซึ่งทางนายแพทย์เองก็ได้ออกมายืนยันว่าเด็กทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนต้องกินนมมารดาอย่างเดียวเท่านั้นการที่แม่ให้ ลูกกินน้ำตาลผสมน้ำจะทำให้เด็กมีอันตรายซึ่งอาจถึงแก่ความตายได้เนื่องจากว่า  หากมีการกินน้ำตาลในปริมาณที่มากก็จะทำให้เกิดเป็นโรคเบาหวานได้และการทำงานภายในร่างกายเช่นตับก็จะต้องทำงานหนัก

เพราะอย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าตับมีหน้าที่ผลิตอินซูลินออกมาเพื่อขับน้ำตาลดังนั้นยิ่งมีน้ำตาลในร่างกายเยอะตับก็ต้องยิ่งทำงานเยอะอาจจะส่งผลให้ตับของเด็กฟังได้เพราะเนื่องจากเด็กทารกร่างกายอวัยวะภายในยังไม่ค่อยสมบูรณ์อยู่แล้วดังนั้นจึงเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งพี่จะนำน้ำตาลมาให้ลูกกินในช่วงเวลานี้อย่างไรก็ดีหมอกอล์ฟได้มีการแนะนำว่าให้คุณแม่ของเด็กไปขอบริจาคน้ำนมจากทางโรงพยาบาลซึ่งจะมีบางโรงพยาบาลที่มีน้ำนมแม่บริจาคให้

 

สนับสนุนโดย  next88 บาคาร่า