ผู้ป่วยโควิด-19 ที่จังหวัดเชียงราย รักษาหายแล้ว

ผุู้ป่วยโควิด-19 ที่จังหวัดเชียงราย รักษาหายแล้ว แต่กลับเป็นซ้ำพบปัญหาปอดอักเสบ

                 ที่จังหวัดเชียงรายได้มีรายงานข่าวออกมาจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และกระทรวงสาธารณสุขว่าเมื่อวันที่ 20 เดือนเมษายนปีพศ 2563 มีผู้ป่วยเดินทางเข้ามารักษาตัวด้วยอาการปอดติดเชื้อซึ่งจากการตรวจสอบประวัติผู้ป่วยรายดังกล่าวอายุประมาณ 35 ปีซึ่งจากการใช้ข้อมูลเบื้องต้น

ของทางโรงพยาบาลพบว่าชายคนดังกล่าวซึ่งถูกปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 6 เดือนเมษายนปีพ.ศ 2553 ที่ผ่านมาด้วยการมารักษาตัวในครั้งนั้นผู้ป่วยคนดังกล่าวรักษาตัวด้วยอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยเขาถูกปล่อยตัวเนื่องจากว่าเขารักษาอาการป่วยการติดเชื้อไวรัสโควิด-19  จนหายดีแล้วทางโรงพยาบาลจึงได้มีการปล่อยตัวของเขาออกไปซึ่งในระหว่างนั้นทางโรงพยาบาลก็แนะนำให้ผู้ป่วยรายดังกล่าวยังต้องกักตัวเองอยู่ภายในบริเวณบ้านจนกว่าจะครบ 14 วันแต่ปรากฏว่าในขณะที่ชายคนดังกล่าวกับตัวเองอยู่นั้นกลับพบว่ามีอาการไข้ขึ้นสูงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

และเขายังมีอาการไอมากเป็นพิเศษดังนั้นญาติจึงได้พากันส่งตัวเขากลับมารักษาตัวอีกครั้งหนึ่ง เดินเขากลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้งในวันที่ 18 เดือนเมษายนปีพศ 2563 ที่ผ่านมาและเมื่อทางแพทย์และพยาบาลได้มีการตรวจร่างกายของเขาแล้วพบว่าเขามีอาการปอดอักเสบซึ่งทางโรงพยาบาลเองก็ยังไม่ได้ฟันธงว่าอาการปอดอักเสบของเขานั้น

เกิดมาจากการติดเชื้อไวรัสตัวเดิมหรือเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียแต่เบื้องต้นทางโรงพยาบาลก็มีมาตรการป้องกัน เอาไว้ก่อนด้วยการแยกผู้ป่วยรายนี้ไปไว้ในห้องพิเศษไม่ให้ปรับปรุงร่วมกับคนอื่นเพราะถ้าหากผลตรวจออกมาแล้วพบว่าเขากลับมาเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าอีกครั้งหนึ่งจะได้ไม่อันตรายกับบุคคลอื่นซึ่งเบื้องต้นอาการของเขาไม่ได้หนักมากนักยังสามารถช่วยเหลือตนเอง

ได้เดินไปไหนมาไหนได้ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยืนยันว่าจะมีการดูแลอาการของผู้ป่วยรายนี้อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งหากมีการตรวจสอบพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าจริงตามอีกรอบหนึ่งก็จะมีการประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขภายในกรุงเทพฯเพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อในครั้งนี้ต่อไป

เพราะตามข้อมูลที่มีการทราบกันโดยดีนะว่าหากผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่ารักษาหายแล้วเขาจะมีภูมิคุ้มกันที่จะไม่กลับมาติดเชื้อได้อีกซึ่งหากใครยังมีเชื้อคงเหลือก็จะไม่สามารถแพร่ไปยังคนอื่นได้และเขาจะไม่มีอันตรายถึงชีวิตแต่กรณีผู้ชายคนนี้พบว่าไม่มีเชื้อโรคอยู่ในปอดซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบเชื้อโรคก่อนจึงจะสามารถประกาศให้กับประชาชนทราบได้ว่าเชื้อโรคดังกล่าวเป็นเชื้อโรคประเภทไหน

 

สนับสนุนโดย  9luck