เรื่องเล่าอุทาหรณ์ของสาวอนาคตไกลแต่ชีวิตต้องดับสลายประเด็นสังคม

         เป็นเรื่องเล่าของหญิงสาวชาวต่างชาติคนหนึ่งเธอชื่อว่าสเตฟานี่ซึ่งกว่าที่เธอจะสามารถเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอให้กับใครหลายๆคนได้ฟังได้เธอก็ต้องใช้ระยะเวลานานเกือบ 20 ปีในการทำจิตใจของเธอให้กลับมาพร้อมที่จะต่อสู้กับโรคใหม่ได้อีกครั้งหนึ่งโดยเรื่องเล่าของเธอนั้นสามารถเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับใครหลายๆคนว่าอย่าไว้ใจใคร

โดยเฉพาะคนในโลกออนไลน์คนที่เราไม่เคยเห็นหน้าหรือแม้แต่ลูกค้าที่นัดเราให้ออกไปเจอข้างนอกการเดินทางไปเจอลูกค้าคนเดียวไม่ใช่เรื่องที่ดีนักควรจะมีเพื่อนไปด้วยโดยเฉพาะลูกค้านั้นหากเป็นผู้ชายเลยเรื่องเล่าของสเตฟานี่นั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1992 โดยเธอบอกว่าในช่วงนั้นเธออายุเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้น

ชีวิตของเธอกำลังรุ่งโรจน์เธอประกอบอาชีพเป็นนายหน้าขายบ้านและเธอสามารถหารายได้จากอาชีพของเธอนั้นได้เป็นกอบเป็นกำเธอมีชีวิตครอบครัวที่ดีเธอมีคนรักที่ดีแต่แล้วชีวิตของเธอก็ต้องพลิกผันเมื่อมีอยู่มาวันหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งระบุว่าเป็นลูกค้าของเธอต้องการที่จะซื้อบ้านหลังหนึ่งและเขานัดให้เธอไปดูบ้านหลังดังกล่าวพร้อมกับเขาในวันรุ่งขึ้นเธอเดินทางไปที่นั่นในช่วงเวลาเช้าและเดินทางไปคนเดียวเมื่อไปถึงเธอก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่และเมื่อเธอเดินเข้าไปหาเขาก็ปรากฏว่าเขาใช้มีดจี้คอเธอ

และบังคับให้เธอขึ้นรถโดยเข้าใช้ผ้าปิดตาเธอพาไปสถานที่รกร้างแห่งหนึ่งหลังจากนั้นก็ลงมือข่มขืนเธอเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาได้จับเธอขังไว้ในหีบไม้ใบหนึ่งซึ่งเขานั้นต่อเติมขึ้นมาเองเพื่อเอาไว้ขังเหยื่อโดยเธอมารู้ภายหลังว่าชายคนดังกล่าวนั้นเคยก่อคดีฆาตกรรมหญิงสาวคนหนึ่งแล้วนำศพมาขังไว้ในหีบเช่นเดียวกัน

แต่หญิงสาวรายนั้นถูกฆ่าตายเนื่องจากเธอร้องโวยวายสำหรับกรณีของเธอนั้นฆาตกรโทรไปที่บริษัทที่เธอทำงานอยู่และบอกว่าเธอนั้นถูกจับกุมตัวมาเรียกค่าไถ่พร้อมกับเรียกร้องเงินเป็นจำนวนเกือบ 8 ล้านบาทซึ่งเขาใช้ระยะเวลาในการขังเธอประมาณ 8 วันและเธอต้องอยู่ในหีบใบนั้นถึง 8 วัน 8 คืนด้วยกันซึ่งในระหว่างที่เธอทุกครั้งอยู่นั้นเธอจะถูกมัดมือและมัดเท้าด้วยสายไฟ

โดยฆาตกรบอกว่าหากเธอหนีก็เธอก็จะถูกไฟช๊อตตายโดยในทุกวันนั้นฆาตกรจะต้องกลับมาข่มขืนเธอ 1 ครั้งและเขาจะกลับไปอยู่ที่บ้านไปนอนที่บ้านซึ่งที่บ้านของเขานั้นจะมีทั้งภรรยาของเขาอยู่ที่นั่นด้วยโดยที่ทานยาของเขาไม่รู้เลยมาก่อนเลยว่าสามีของเขานั้นได้จับหญิงสาวอีกคนหนึ่งมากักขังเอาไว้จนเมื่อฆาตกรได้เงินเป็นค่าไถ่ตัวเรียบร้อยแล้ว

เขาก็นำตัวหญิงสาวนั้นไปทิ้งไว้อยู่ที่ริมถนนใกล้กับบ้านของเธอหลังจากนั้นก็บอกให้เธอกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติแต่ไม่เลยเมื่อเธอกลับมาอยู่ที่บ้านเธอไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่เธอไปเจอมาได้และมันยังคอยตามหลอกหลอนเธอทุกข์ยามค่ำคืนที่เธอนอนเธอไม่สามารถไปทำงานที่บริษัทเดิมได้เธอจึงได้ลาออกจากบริษัทเดิมและเธอต้องเลิกกับแฟนเพราะเธอไม่สามารถทำใจอยู่ร่วมกับแฟนของเธอได้

เธอไม่สามารถใช้ชีวิตกับใครได้เลยจนในที่สุดเธอต้องย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นไปที่ไหนที่ไม่มีใครรู้จักเธอและได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อที่เธอนั้นจะได้กลับมาใช้ชีวิตใหม่เธอต้องใช้ระยะเวลาเกือบ 20 ปีในการที่จะสามารถลืมเรื่องราวต่างๆที่เลวร้ายนางได้หลังจากนั้นเธอจึงได้มีการเขียนสิ่งที่เธอได้พบเจอมาลงในหนังสือเพื่อบอกเล่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายๆคนให้ใช้ชีวิตอย่าประมาทจะได้ไม่เหมือนกับเธอ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   rb88

เด็ก 6 ขวบหายสาบสูญพบแม่จมน้ำเสียชีวิต

     ที่จังหวัดอุดรธานีมีเหตุการณ์ ที่่มีหญิงสาวที่ชื่อวนิดาได้หายออกจากบ้านไปหลังจากนั้นวันที่ 26เดือนกุมภาพันธ์ปีพ.ศ. 2563  โดยเธอหายออกจากบ้านพร้อมกับลูกสาวของเธอคือน้องยี่หวา

แต่ประเด็นของเรื่องก็คือ มีคนมาเจอศพเธอที่สถานีคลองส่งน้ำ โดยเธอจมน้ำเสียชีวิตวันที่  12 เดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2563 แต่ว่าไม่มีใครพบลูกสาวของเธอน้องยี่หวา ทำให้หลายคนสงสัยว่าน้องยี่หวาหายไปไหน ซึ่งในตอนแรกมีการสันนิฐานกันว่าน้องยี่หวาอาจจะจมน้ำเหมือนอย่างคุณ วนิดา แต่บรรดานักประดาน้ำได้ดำน้ำตามหาร่างก็ไม่พอศพ

ตอนนี้ตำรวจกำลังตามหาตัวเด็กโดยมีการประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ ทางผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์สามีของคุณวนิดา ซึ่งอยู่ระหว่างการเศร้าเสียใจ โดยสามีของคุณวนิดาให้ข้อมูลว่าวันเกิดเหตุ สามีและคุณวนิดามีเรื่องทะเลาะกันหนักมากแต่ไม่ได้ลงไม้ลงมือกัน สาเหตุที่ทะเลาะกันเพราะคุณ วนิดา ไม่ยอมทำงานบ้านเอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือ

ซึ่งวันนั้นตอนเที่ยงสามีกลับมาบ้านมากินข้าวเที่ยงยังเจอภรรยาและลูกอยู่เลย โดยกินข้าวเสร็จเขาก็นอนหลับและตอนบ่ายลูกสาวก็มาปลูกให้ไปทำงาน ซึ่งวันเดียวกันนั้นเองตอนช่วงเวลาประมาณ ห้าโมงเย็นมีคนมาบอกกับสามีว่า เมียเอ็งขนเสื้อผ้าหนีไปแล้วพร้อมกับลูก ซึ่งเขากลับมาก็ไม่เจอเมียกับลูก เสื้อผ้าข้าวของหายไปหมด และเขาก็ออกตามหาเมียตั้งแต่วันที่เมียหายไปวันแรก จนถึงวันที่ 12 เดือนมีนาคมจึงมาพบศพเมีย

ซึ่งระหว่างที่เขาติดตามหาเมียนั้น มีเบาะแสมาว่า คุณวนิดาได้จ้างให้คนไปส่งที่ บขส. คนที่ขับรถไปส่งคุณ วนิดาชื่อว่า นายบัวลอย ซึ่งเขาได้เล่าให้นักข่าวฟังว่าตอนที่ขับรถไปส่งคุณ วนิดา ได้ยินคุณวนิดาคุยโทรศัพท์กับคนที่ชื่อว่าอ้วน ซึ่งคุณบัวลอยยังบอกกับคุณ วนิดาว่าจะไปกับคนชื่ออ้วนทำไม ตัวเองมีผัวแล้ว ในที่สุดก็ไปส่งถึง บขส. ตอนบ่ายโมงตรงและวนิดาก็นั่งรอคนชื่ออ้วนอยู่ที่ บขส. จนถึงหนึ่งทุ่มอ้วนถึงมาหาวนิดาที่ บขส . ที่นายบัวลอยทราบเพราะนั่งรอเพื่อจะเอาเงินค่าจ้าง 300 บาทที่นางวนิดาว่างจ้างให้มาส่ง และหลังจากนั้นนาง วนิดาก็หายไป

จนมาพบอีกทีกลายเป็นศพเสียชีวิต และลูกวนิดา วัย 6 ขวบหายไป ซึ่งระหว่างทางที่นายบัวลอยมาส่งนางวนิดา จะได้ยินว่านายอ้วนขับรถมาจากจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อมารับนางวนิดา แต่รถเสียระหว่างทางตรงจังหวัดโคราช จึงได้นั่งรถจากโคราชเพื่อมารับวนิดาแทน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวนายอ้วนเพื่อมาสอบสวน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  rb88