สาวตกงาน หวังกระโดดสะพานลอยจบชีวิต ถามหาวัคซีนและ อนาคตประเทศไทยอยู่ตรงไหน 

          สาวตกงาน หวังกระโดดสะพานลอย เมื่อวันที่ 13 เดือนมิถุนายนปีพศ 2564     ที่จังหวัดจันทบุรีเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่าพบหญิงสาวคนหนึ่งทำท่าทางเหมือนจะกระโดดสะพานลอย   ดูสะพานลอยดังกล่าวนั้นอยู่ตรงบริเวณตลาดเมืองใหม่นายายอาม  ซึ่งอยู่บนถนนสุขุมวิท   โดยหญิงสาวคนดังกล่าวร้องได้ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตลอดเวลานอกจากนี้ยังมีป้ายกระดาษแขวนที่คอโดยเขียนข้อความประมาณว่าเธอไม่สามารถที่จะทนต่อไปได้แล้วเธอไม่รู้ว่าอนาคตนั้นอยู่ที่ไหนและในขณะนี้วัคซีนที่มีคุณภาพนั้นเมื่อไหร่คนไทยจะได้

       เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงยังสะพานที่เป็นจุดเกิดเหตุนั้นพบว่าหญิงสาวยังไม่ได้มีการกระโดดลงไปแต่มีการเตรียมท่าทางที่กำลังจะปีนสะพานนอกจากนี้ยังอยู่ในอาการที่คุ้มคลั่งร้องไห้เสียใจเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามไกล่เกลี่ยพูดคุยเพื่อให้หญิงสาวคนดังกล่าวใจเย็นลงหลังจากนั้นก็เข้าไปทำการล็อคตัวนำออกมาจากตรงบริเวณราวสะพานเพื่อให้อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย

        หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตัวหญิงสาวคนดังกล่าวมาแล้วจึงได้มีการพูดคุยกันพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นมีอายุ 50 ปีโดยเธอระบุว่าตอนนี้เธอนั้นไม่มีงานไม่มีอาชีพไม่มีเงินและเธอยังมีลูกมีครอบครัวที่จะต้องดูแลซึ่งแต่เดิมนั้นเธอเป็นนักร้องที่ร้องเพลงตามคาเฟ่มีงานทำ

     แต่หลังจากที่มีการระบาดของไวรัสโควิคทำให้ร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่นั้นปิดกิจการลงและเธอก็ไม่สามารถไปสมัครงานที่ร้านอื่นๆได้เพราะเดี๋ยวนี้ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องใช้นักร้องคาเฟ่และร้านอาหารก็ปิดกิจการกันเป็นจำนวนมากแล้วนอกจากนี้เมื่อเธอลองไปสมัครงานทำด้านอื่นๆดูก็แทบไม่มีใครเปิดรับสมัครงานเลยทีเดียวเพราะทุกคนต่างก็เดือดร้อนเหมือนกันหมด

      เธอยังได้มีการตัดพ้อกับสถานการณ์ในปัจจุบันด้วยว่าสำนักข่าวต่างๆนั้น  สาวตกงาน หวังกระโดดสะพานลอย  นำเสนอข่าวด้านอื่นๆแต่ไม่เคยมีการเสนอข่าวเกี่ยวกับเรื่องของประชาชนที่กำลังจะอดตายอยู่ในตอนนี้ว่าจะมีมีคนกำลังเดือดร้อนมากแค่ไหนและเธอยังเบื่อเกี่ยวกับเรื่องของนักข่าวชอบลงข่าวลุงพลทั้งๆที่ไม่มีอะไรที่น่าสนใจแทนที่จะมาลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องของสถานการณ์ของชาวบ้านในปัจจุบันนี้ที่กำลังเดือดร้อนกันหมดหลายคนหาเช้ากินค่ำไม่มีงานให้ทำและกำลังจะอดตายกันหมดอยู่แล้ว

         ซึ่งเธอนั้นรู้สึกเกิดความเครียดมากเมื่อหางานทำไม่ได้จึงตัดสินใจที่จะลองฆ่าตัวตายด้วยการโดดสะพานลอยนอกจากปัญหาเรื่องของข่าวสารแล้วเธอยังระบุอีกด้วยว่าเธอยังไม่เห็นว่าประเทศไทยจะมีการแก้ไขปัญหาอะไรบ้างเลยเพราะแม้แต่เรื่องของวัคซีนเธอก็ยังไม่ได้รับการฉีดซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ก็เสนอพาเธอไปทำการฉีดวัคซีน

แต่เธอก็ยืนยันปฏิเสธไม่ขอรับวัคซีนที่จะฉีดในตอนนี้เพราะเธอระบุว่าข่าวสารที่มีการลงออกมาตอนนี้เกี่ยวกับวัคซีนชิโนแวคที่มีการเปิดให้ฉีดนั้นทำให้เธอหากลัวว่าจะมีผลกระทบกับตัวเธอ หลังจากที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่สักพักหนึ่งเธอก็รู้สึกดีขึ้นหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยตัวหญิงสาวคนดังกล่าวพร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ 

 

สนับสนุนโดย.  aecasino

โจรโหดฆ่าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวชิงทอง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวแล้ว 

         โจรโหดฆ่าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวชิงทอง  จากกรณีเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 เดือนมิถุนายนปีพศ 2564 มีเหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อมีแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวอายุ 63 ปีถูกคนร้ายบุกไปที่ร้านแล้วใช้อาวุธมีดปาดคอจนถึงแก่ความตายโดยคนร้ายหวังที่จะฉกทองที่แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวใส่อยู่ซึ่งมีน้ำหนักเพียงแค่ 3 สลึงเท่านั้น

     จากเหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความสะเทือนขวัญให้กับคนในหมู่บ้านที่เกิดเหตุเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าในขณะที่เกิดเหตุนั้นมีผู้เห็นเหตุการณ์อยู่หลายคน  และยังเป็นการก่อเหตุกลางวันทำให้ชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัวคนร้ายจะกลับมาลงมือทำร้ายร่างกายคนในบ้านคนอื่นๆอีกซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามหาหลักฐานเพื่อที่จะได้ตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

     อย่างไรก็ตาม โจรโหดฆ่าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวชิงทอง  ผ่านไปยังไม่ถึงวันทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสภแม่อายก็สามารถแสดงผลงานจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยคนร้ายนั้นหนีไปหลบซ่อนที่ร้านคาร์แคร์ซึ่งเป็นร้านล้างรถแห่งหนึ่งเนื่องจากคนร้ายนั้นทำงานอยู่ที่ร้านล้างรถดังกล่าวซึ่งคนร้ายนั้นทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  

      อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดตามถนนที่ตั้งแต่คนร้ายออกจากบ้านที่เกิดเหตุและขับรถหนีไปเรื่อยๆจนสามารถสืบทราบได้ว่าคนร้ายนั้นทำงานอยู่ที่ร้านคาร์แคร์เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าแสดงตัวทันทีและเข้าทำการจับกุมซึ่งร้านคาร์แคร์ที่คนร้ายไปทำงานอยู่นั้นอยู่ที่ตลาดทรัพย์สว่าง

        เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุยสอบถามคนร้ายก็ ให้การยอมรับในที่สุดโดยคนร้ายนั้นได้พาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังจุดที่ทิ้งมีดที่ใช้ในการสังหารแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวอีกด้วย   

        อย่างไรก็ตามข้อมูลประวัติของตัวคนร้ายแล้วนั้นเคยก่อเหตุชิงทรัพย์มาแล้วหลายครั้งซึ่งมีประวัติอาชญากรรมกับทางสถานีตำรวจเอาไว้ทำให้ง่ายต่อการสืบหาตัว  ที่สำคัญทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ทุ่มเทในการจับตัวคนร้ายอย่างเต็มที่ทำให้ใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 วันก็สามารถที่จะนำตัวคนร้ายมาลงโทษได้สร้างความดีใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นอย่างมาก 

    อย่างไรก็ตามสำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าหญิงชราวัย 63 ปีซึ่งเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีถึงที่อยู่ของตัวคนร้ายจึงทำให้สามารถเดินทางไปจับกุมได้อย่างรวดเร็วโดยคนร้ายนั้นมีชื่อว่า นายชิงยิง ซึ่งปัจจุบันนี้คนร้ายมีอายุ 35 ปีและเป็นคนจังหวัดเชียงรายแต่ได้มาทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่แล้วมาก่อเหตุฆ่าคนตายที่จังหวัดเชียงใหม่นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 1000

สบค.เตรียมคลายมาตรการ covid-19 ในโซนแดง ให้นั่งกินที่ร้านได้

         อย่างที่เรารู้กันดีว่าก่อนหน้านี้  สบค. ได้ออกมาตรการคุมเข้มสำหรับจังหวัดซึ่งเป็นโซนสีแดงโดยเป็นโซนที่มีการระบาดของไวรัสโควิคค่อนข้างเยอะและยังไม่สามารถที่จะควบคุมการระบาดได้ดังนั้น   สบค. จึงได้มีมาตรการหลายอย่างออกมา  ไม่ว่าจะเป็นการห้ามการรวมกลุ่มกันเกิน 50 คนและยังมีการห้ามจัดกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานหรืองานขึ้นบ้านใหม่รวมถึงยังขอความร่วมมือไปยังเจ้าของกิจการต่างๆไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิงโรงภาพยนตร์หรือแม้แต่สวนสนุกให้ปิดกิจการชั่วคราวก่อนนอกจากนี้ร้านอาหารก็ยังได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากทาง สบค. 

          ซึ่งจะมีการกำหนดห้ามขายสุราในร้านอาหารและให้ร้านอาหารมีการขายอาหารได้โดยการเดลิเวอรี่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นไม่ให้ลูกค้านั่งกินภายในร้านซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีร้านขายอาหารหลายร้านที่ต้องออกมาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขายใหม่เพราะการขายเพียงเดลิเวอรี่หลังเดียวนั้นไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่ทางร้านมีอยู่ซึ่งเจ้าของกิจการหลายร้านนั้นต้องออกมาวอนขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเพราะการเปิดให้ขายสินค้าที่มีการกำหนดทั้งเวลาและไม่อนุญาตให้คนเข้ามานั่งกินภายในร้านได้นั้นสร้างความเสียหายให้กับเจ้าของกิจการเป็นอย่างมากเพราะ ร้านอาหารส่วนใหญ่ขายได้เพราะลูกค้าต้องการมานั่งกินอาหารที่ร้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและเมื่อเปิดให้ขายเฉพาะเดลิเวอรี่อย่างเดียวทำให้ยอดขายตกลง

         อย่างไรก็ตามกำหนดการที่ทาง  สบค. มีการตั้งกฎเอาไว้นั้นกำลังสิ้นสุดลงดังนั้นในตอนนี้  สบค. จึงได้มีการเตรียมร่างมาตรการขึ้นมาเพื่อทำการคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่สีแดงเพื่อให้ร้านอาหารนั้นสามารถที่จะมีลูกค้าได้มากขึ้นเป็นการคลายมาตรการคุมเข้มของการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิคนั่นเอง

     โดยทาง  สบค. มีแนวความคิดที่จะให้ร้านอาหารที่อยู่ในซองสีแดงสามารถเปิดให้บริการให้ลูกค้าไปนั่งกินที่ร้านได้แต่ยังคงมีการควบคุมเรื่องของจำนวนคนในการเข้าไปกินโดยระบุว่า 1 โต๊ะสามารถกินได้เพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น  โดยเงื่อนไขนะมีการกำหนดว่าร้านอาหารๆจะสามารถรับลูกค้าได้ให้นั่งกินในร้านได้ไม่เกินแค่ 25 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน  และยังมีการห้ามไม่ให้จำหน่ายสุราที่ร้านอาหารเหมือนเดิมที่สำคัญยังคงเปิดบริการให้กินอาหารที่ร้านได้ถึงแค่  21:00 น เท่านั้นและเปิดให้ขายดีของแบบเดลิเวอรี่ได้จนถึง 5 ทุ่ม

          แต่สำหรับร้านอาหารที่อยู่ในโซนพื้นที่สีส้มนั้นจะอนุญาตให้เปิดขายของได้ตามปกติและสามารถให้ลูกค้าไปนั่งกินในร้านได้ตามปกติเพียงแต่ว่าทางร้านยังไม่สามารถที่จะจำหน่ายสุราให้กับลูกค้าได้เท่านั้นเอง 

 

สนับสนุนโดย  แจกสูตรหวยยี่กี

3 ประเทศในอาเซียนฉีดวัคซีนได้มากที่สุด

เป็นปัญหาระดับประเทศสำหรับการจัดการเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพราะประชาชนทั่วไปหลายๆคนยังกังวลกับความปลอดภัยของวัคซีด เป็นเหตุให้หลายๆประเทศต้องสร้างความน่าเชื่อถือและแรงจูงใจให้คนในประเทศเข้ามารับวัคซีนกัน เรามาดูกันว่าในอาเซียนใช้กลยุทธ์อะไรกันบ้าง

ซึ่งในตอนนี้จะเน้นไปในเรื่องของประชาสัมพันธ์เลยผ่านทางสื่อหลักสื่อใหม่ตอนนี้จะเห็นได้ว่าอย่างสิงค์โปรตอนนี้พยายามที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มอีกด้วยก่อนที่เราจะไปเจาะมาตรการโน้มน้าวให้คนไปฉีดวัคซีนกันเยอะๆ

เราช่วยทุกๆคนมาดูการฉีดวัคซีนทั่วโลกกันก่อนทั่วโลกฉีดวัคซีนโควิด-19ไปแล้วไม่ต่ำกว่า1,300ล้านโดสหรือจะคิดเป็น8.7%ของประชากรโลกถ้าทุกท่านได้เห็นข้อมูลต่อไปนี้จะรู้เลยว่า อเมริกาเหนือ สหรัฐ และ แคนาดา มีอัตราการฉีดวัคซีนต่อประชากร100คนมากที่สุดเลยก็คือแอฟริกา

โดยบ้างประเทศในแอฟริกาที่จะต้องพึ่งพาโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดี่ยวเลยสาเหตุส่วนหนึ่งเลยที่ทำให้การฉีดวัคซีนในหลายประเทศในหลายภูมิภาคค่อนข้างที่จะล่าช้าก็มาจากหลายปัจจัยการขนส่งที่ล่าช้าก็เป็นอีกส่วนหนึ่งแต่ว่าหนึ่งในนั้นก็คือความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย

เนื่องจากวัคซีนใช้เวลาในการพัฒนาไม่ถึง1ปีภาวะนี้กเลยนำไปสู่ความลังเลใจในการรับวัคซีนโควิด-19ในหลายประเทศรวมถึงในอาเซียนด้วยเมื่อพูดถึงอาเซียนข้อมูลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาระบุว่าชาติสมาชิกอาเซียน10ประเทศฉีดวัคซีนไปแล้วไม่ต่ำกว่า35ล้านโดสมีสามประเทศที่ฉีดวัคซีนมากที่สุดคือ สิงค์โปร กัมพูชา และ อินโดนีเซีย

เพราะฉะนั้นแล้วที่สิงค์โปรฉีดวัควีนไปแล้วประมาณ2.2ล้านโดสด้วยกันถือว่าเป็นชาติแรกในอาเซียนที่เริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงเมื่อวันที่30ธันวาคมปีที่แล้วอย่างที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็คือประมาณ2.2ล้านโดสคิดเป็นอัตราส่วนประมาณ39โดสต่อประชากร100คนสิงค์โปรเขาใช้วัคซีนทั้งหมด2ตัวที่เป็นตัวหลักก็คือ ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา 

นอกจากนี้ก็กำลังพัฒนาวัคซีนของตัวเองเป็นชนิดmrnaด้วยมาดูกันที่กัมพูชาในตอนนี้ที่กำลังปูพรมฉีดวัคซีนเพื่อรับมือกับโควิด-19ระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนที่แล้วจนถึงมาเป็นอันดับที่สองทางกัมพูชาเขาได้ใช้วัคซีนทั้งหมด3ตัวด้วยกันเป็นของจจีน2ตัวก็คือ ซิโนฟาร์ม และ ซิโนแวค อีกตัวนึงเป็นของ วัคซีนแอสตราเซเนกาจากโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก

ส่วนประเทศสุดท้ายคืออินโดนีเซียที่อินโดนีเซียได้ใช้วัคซีนไปแล้ว22ล้านโดสดูเหมือนจะเยอะใช่ไหมแต่ประชากรของเขามีมากขึ้น270ล้านคนเพราะฉะนั้นอัตราส่วนก็คือ8.1ล้านโดสต่อประชากร100คน

 

สนับสนุนโดย  เว็บหวยออนไลน์ เชื่อถือได้

หนุ่มใหญ่รัวดับนายหน้าค้าที่ดิน แค้นถูกโกงเงิน 

           เมื่อวันที่ 8  พฤศจิกายน ปีพ.ศ. 2563   เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจเมืองเพชรบุรี  ของจังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านช่วงเวลาประมาณ 5 โมง 40 นาทีว่ามีเหตุยิงกันเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง   โดยบ้านที่ก่อเหตุยิงกันนั้นเป็นร้านรับทำโครงหลังคาเหล็ก  ซึ่งมีเจ้าของบ้านชื่อว่านายเอกอนันต์อายุ 45 ปี   และยังเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุยิงคนเสียชีวิตอีกด้วย 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจึงได้เดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุทันทีซึ่งเมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิตนอนตายอยู่ตรงบริเวณลานหน้าบ้านเป็นเพศชายอายุ 31 ปีชื่อว่านายณัฐวัฒน์  โดยจากการตรวจสอบร่างกายของศพนั้นพบว่ามีร่องรอยการโดนอาวุธปืนยิงตามร่างกายรวมทั้งสิ้น 13 นัดด้วยกัน  

        ส่วนผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเจ้าของบ้านก็คือนายเอกอนันต์นั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงไม่พบแล้วซึ่งคาดว่าน่าจะตกหนีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  หลักการให้ข้อมูลของคนที่อยู่ในเกิดเหตุระบุว่า ในช่วง เวลาประมาณ 17:00 น นายณัฐวัฒน์ได้เดินทางมาที่ร้านค้าของนายเอกอนันต์  แล้วมีปากเสียงทะเลาะกัน  ซึ่งจับใจความได้ว่า  นายณัฐวัฒน์นั้นมีอาชีพเป็นนายหน้าขายที่ดินซึ่งได้มีการนำโฉนดที่ดินของนายเอกอนันต์ไปทำการจำนองเอาไว้  เนื่องจากว่านายเอกอนันต์นั้นต้องนำเงินมารักษาอาการป่วยของตนเองและของภรรยาจึงได้นำโฉนดที่ดินไปฝากไว้ที่นายณัฐวัฒน์  

        แต่หลังจากที่นายเอกอนันต์รู้ข่าวว่าโฉนดที่ดินของตนเองนั้นนายณัฐวัฒน์นำไปจำนำเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่นายณัฐวัฒน์ไม่ยอมนำเงินมาแบ่งให้กับตนเองก็เกิดอาการไม่พอใจและเกิดมีปากเสียงกันเกิดขึ้นซึ่งนายณัฐวัฒน์นั้นยืนยันว่าจะไม่ให้เงินเพราะไม่มีหลักฐานว่าตนเองเอาโฉนดที่ดินไปฝากไว้กับนายณัฐวัฒน์อีกทั้งยังทาด้วยว่าถ้าหากอยากได้เงินก็ให้ไปฟ้องร้องเอา  ทำให้นายเอกอนันต์เกิดความรู้สึกไม่พอใจที่ตนเองนั้นถูกนายณัฐวัฒน์โกงและยังมาพูดจาไม่ดีใส่จึงทำให้เกิดบันดาลโทสะในที่สุดก็ตัดสินใจหยิบปืนที่อยู่ในบ้านเป็นปืนขนาด 9 มม. ออกมาและกระหน่ำยิงไปที่นายณัฐวัฒน์จนถึงแก่ความตาย

         และหลังจากที่ยิงแล้วก็ได้ทำการหลบหนีซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบและติดตามตัวได้ว่าหลบหนีไปอยู่ที่ไหนและได้มีการแก้ต่อมนายเอกอนันต์อยู่ประมาณเกือบ 20 นาทีสุดท้ายนายเอกอนันต์ก็ทำการมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากนั้นก็ได้มีการเล่าเรื่องราวและสาเหตุที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหตุให้มีคนตายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบอีกครั้งหนึ่ง

         และในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนายเอกอนันต์เป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งในเรื่องของการฆ่าคนตายและในเรื่องของการพกพาอาวุธปืน

 

 

สนับสนุนโดย    918kiss ทรูวอเลท ไม่มีขั้นต่ำ

จับตาสัญญาณเตือนไวรัสโควิดระบาดใหม่ในจีน

      จากการที่ก่อนหน้านี้ประเทศจีนได้มีการตรวจพบว่าที่เขียงปลาซึ่งเป็นเขียงเอาไว้สำหรับแรกเนื้อปลาแซลมอนในตลาดสดแห่งหนึ่งนั้นมีเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่หลังจากนั้น ก็มีการออกสำรวจตลาดสดเกือบทุกตลาดในประเทศจีนซึ่งปรากฏว่าที่ตลาดขายหมูก็มีการพบเชื้อไวรัสโคโรนาที่เขียงหมูในตลาดเช่นเดียวกันซึ่งที่ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดขายหมูขนาดใหญ่

ซึ่งในแต่ละวันนั้นจะต้องมีการขายหมูมากกว่า 3000 ตัวด้วยกันอีกครั้งที่ตลาดแห่งนี้มีคนมาเดินจับจ่ายซื้อของกันเป็นจำนวนมากในแต่ละวันนั้นมีคนมากกว่า 2 หมื่นคนที่ต้องไปเดินตลาดแห่งนี้ทำให้เป็นไปได้ว่าตลาดแห่งนี้นั้นอาจจะมีการเป็นแหล่งแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนารอบ 2 ก็เป็นได้

ซึ่งในขณะนี้ทางการจีนพบว่ามีประชาชนที่มีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาไปทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 157 คนแล้วอย่างไรก็ตามตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาว่าต้นเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนานั้นมาจากที่ไหนบ้างซึ่งกำลังพยายามทำการตรวจสอบตลาดสดทุกแห่งที่มีอยู่ในประเทศจีนอยู่และแน่นอนว่าจากการที่อยู่ๆก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทำให้ทางการของจีนนั้นของออกมาพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องของการประกาศปิดตลาดและการล็อคดาวใหม่อีกครั้งหนึ่ง

โดยมองว่าจะต้องมีการล็อกดาวน์ตลาดที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรครวมถึงตลาดบริเวณโดยรอบและเมืองบริเวณรอบๆตลาดที่มีการพบเชื้อไวรัสโคโรน่าเอาไว้ก่อนเพื่อเป็นการหยุดการกระจายของไวรัสโคโรน่าซึ่งมาตรการนี้ส่งผลให้เกิดการปิดการเรียนการสอนสำหรับโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ความเสี่ยงรวมถึงมีการยกเลิกเที่ยวบินในเขตพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอีกด้วยอย่างไรก็ตามหลายประเทศมองว่าหรือนี่จะเป็นการกลับมาระบาดของไวรัสโคโรนารอบใหม่ของประเทศจีน

ซึ่งทางการจีนนั้นคงจะต้องมีการหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาหากว่าสามารถแก้ไขการระบาดของไวรัสโคโรนารอบ 2 ได้ก็ควรจะต้องมีการออกมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนารอบสามอีกอย่างไรก็ตามสำหรับคนที่อื่นๆที่ไม่พบการแพร่ระบาดของทางประเทศจีนก็จะยังคงเปิดให้บริการให้ประชาชนใช้ชีวิตกันได้ตามปกติเพียงแค่ประมาณ 20 เขตในพื้นที่โดยรอบของจุดที่มีการระบาดเท่านั้นที่จะมีการประกาศให้ล็อคดาวน์ และบุคคลที่อยู่ในแหล่งที่มีการแพร่ระบาดนั้นจะถูกสั่งห้ามออกนอกพื้นที่จนกว่าจะสามารถควบคุมการระบาดไว้ได้

 

สนับสนุนโดย.    918kiss ฝากไม่มีขั้นต่ำ

สั่งซื้อมือถือ iPhone ผ่านระบบออนไลน์เด็กชายวัย 15 ปีต้องตกใจเปิดกล่องมาเจอปลากระป๋องแทน iPhone

                    มีเรื่องราวเกิดขึ้นบ่อยครั้งสำหรับการซื้อสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์โดยเฉพาะการซื้อโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ที่ซื้อสินค้าออนไลน์โดยสินค้าดังกล่าวเป็นโทรศัพท์มือถือต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากในการสั่งซื้อสินค้ามักจะพบปัญหาเมื่อได้รับพัสดุและแกะกล่องพัสดุออกมาจะไม่ได้รับโทรศัพท์มือถือตามที่สั่งเอาไว้ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับเป็นสินค้าอื่นๆแทน

           ล่าสุดมีเด็กชายวัย 15 ปีกำลังเรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้มีการสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone ผ่านทางระบบออนไลน์โดยโทรศัพท์มือถือ iPhone ที่สั่งซื้อนั้นเป็นมือสองเป็นรุ่น iPhone 8 ซึ่งเด็กชายวัย 15 ปีได้มีการพูดคุยกับเจ้าของร้านก่อนที่จะมีการจ่ายเงินบางส่วนเป็นค่ามัดจำ 1,500 บาทหลังจากนั้นค่อยมีการจ่ายส่วนที่เหลือโดยเป็นการผ่อนชำระแต่ปรากฏว่าเมื่อมีการจ่ายเงินและโอนเงินกันเรียบร้อยแล้วทางร้านค้าได้มีการส่งสินค้ามาให้แต่พอเปิดกล่องพัสดุกับพบว่าภายในมีเพียงแค่ปลากระป๋องซึ่งมีทั้งสิ้นเพียงแค่ 5 กระป๋องเท่านั้นและไม่พบโทรศัพท์มือถือไอโฟน 8 รุ่นที่ต้องการแต่อย่างใด

          สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นกับเด็กชายวัย 15 ปีซึ่งเรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งประจำจังหวัดระยองโดยเขาได้มีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองระยอง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเด็กชายวัย 15 ปีได้รับความเดือดร้อนจากการที่ถูกหลอกลวงให้โอนเงินไปให้และหลังจากที่ตนเองได้รับปลากระป๋องก็ได้พยายามติดต่อไปยังแม่ค้าที่ขายโทรศัพท์มือถือออนไลน์ให้แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทางดังนั้นเด็กชายวัย 15 ปีจึงเข้าใจว่าเขาได้ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงอย่างแน่นอนจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยประสานงานกับกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี

           อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการลอยจากเลขที่บัญชีปลายทางที่เด็กชายวัย 15 ปีได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีให้ 1,500 บาทซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่าเจ้าของบัญชีนั้นรู้จักกับผู้ที่ให้เปิดบัญชีให้หรือไม่และทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเชื่อมั่นว่าน่าจะสามารถติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

          อย่างไรก็ตามสำหรับคดีแบบนี้เรามักจะเห็นข่าวอยู่เป็นประจำดังนั้นเชื่อว่าในครั้งนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายๆคนที่นิยมการซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ควรจะต้องมีการเลือกตั้งสินค้าชนิดไหนที่สามารถซื้อได้และสินค้าชนิดไหนที่ควรไปซื้อที่ร้านเองโดยตรงอย่างเช่นโทรศัพท์มือถือไม่ควรสั่งพื้นฐานฟังออนไลน์เพราะง่ายต่อการถูกโกงเป็นอย่างมากอีกทั้งสินค้าชนิดไหนที่ราคาถูกกว่าปกติก็ไม่ควรที่จะเชื่อถือเพราะส่วนใหญ่แล้วสินค้าที่ดูมีราคาแพงแต่ถูกนำมาขายในราคาที่ถูกนั้นมักจะมีปัญหาและมักจะถูกแก๊งมิจฉาชีพเอามาหลอกลวงประชาชนนั่นเอง

 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.    ชุดตรวจ hiv

คนไข้เมากร่าง ไม่พอใจเจ้าที่ จนทำร้ายเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล

           เมื่อวันที่ 31 เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564 ได้มีกระแสวิจารณ์กันอย่างหนักหลังจากที่มีข่าวและคลิปเกี่ยวกับคนไข้ที่ไป ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและคนไข้รายนี้ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย รปถ ภายในโรงพยาบาลแห่งนี้  เลยโรงพยาบาลดังกล่าวนั้นเป็นโรงพยาบาลอยู่บนถนนเพชรบุรี ชื่อว่าโรงพยาบาลเพชรเวช

          จากในคลิปนั้นจะเห็นว่าคนไข้ผู้ชายได้มีการโวยวายและลงมือทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เดินเข้ามาเพื่อระงับเหตุการณ์หลายคนที่เห็นคลิปดังกล่าวรวมถึงการฟังข่าวจากสื่อต่างๆทำให้มองว่าชายคนไข้นั้น  ทำรุนแรงกับเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุซึ่งจากข้อมูลที่มีการพูดคุยกับชายคนที่อยู่ในคลิปและเป็นคนที่ลงมือทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้นระบุว่า  ตัวเขาเองนั้นเดินทางมาที่โรงพยาบาลเนื่องจากว่ามีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก  ซึ่งเป็นผลมาจากการดื่มสุรามากจนเกินไป

          อย่างไรก็ตามหลังจากมาที่โรงพยาบาลแล้วเจ้าหน้าที่พยาบาลได้ให้เขาไปทำการตรวจเลือดและสิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจนั่นก็เพราะว่าเขาต้องนั่งรอผลตรวจเลือดนานเกินกว่า 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่ทราบผล  อีกทั้งระหว่างที่เขากำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาสังเกตุเห็นว่าพยาบาลได้มีการจับกลุ่มคุยกันและหันหน้ามามองที่เขา ทำให้เขาไม่พอใจ เพราะคิดว่าพวกพยาบาลกำลังนินทา

       ด้วยความไม่พอใจจึงได้หันไปสอบถามพวกพยาบาล ด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยพอใจ และมีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามา และตนเองเกรงว่า รปภ. จะทำร้ายร่างกายจึงได้มีการป้องกันตัว ด้วยกันใช้มือทุบ และตบเพียงเท่านั้นเอง  ทางคนไข้ที่ก่อเหตุยืนยันว่า สิ่งที่เขาทำไปเพราะเขาโมโห ที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนี้ทีไร ก็มักจะต้องรอนานทุกครั้งไป   

       และที่เขาต้องมารักษาตัวที่นี่ก็เพราะว่า เขาจำเป็นต้องมาใช้สิทธิ์ประกันสังคมกับโรงพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง   จากคลิปเหตุการณ์ที่กำลังมีการเผยแพร่อยู่ในขณะนี้นั้น  คนไข้ที่ก่อเหตุยังบอกอีกว่า เป็นคลิปที่มีการตัดต่อมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเขายืนยันว่าถึงแม้จะมีการทำร้ายร่างกายกันจริง แต่ก็เกิดจากการที่ ทั้งพยาบาลและ รปภ. พูดจากับคนไข้ไม่ดีด้วยเช่นเดียวกัน

     เบื้องต้น ทางด้านผู้อำนวยการของโรงพยาบาล เพชรเวช กำลังตรวจสอบเป็นการภายในอยู่ ซึ่งคาดว่าจะมีการนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิด แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคนไข้ชายดังกล่าว ที่ลงมือทำร้ายเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจนได้รับบาดเจ็บหลายคนและเพื่อเป็นกรณีตัวอย่างไม่ให้คนไข้คนอื่นมาอาละวาดทำร้ายเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้อีก

 

สนับสนุนโดย .    กริลแอร์

จับได้แล้วคนฆ่าเจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ที่จังหวัดเพชรบุรี

           จากกรณีเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเรื่องของพบศพชายวัย 54 ปีซึ่งมีอาชีพเป็นช่างเปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์เสียชีวิตด้วยการคว่ำหน้าลงในอ่างอาบน้ำซึ่งทางด้านภรรยาของผู้เสียชีวิตรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเองสงสัยเกี่ยวกับเรื่องสาเหตุของการเสียชีวิตเนื่องจากว่าบริเวณรอบบ้านและตรงบริเวณหน้าประตูบ้านมีร่องรอยของหยดเลือด

และมีรอยเลือดเป็นทางลาดจากหน้าประตูมาถึงตรงบริเวณอ่างอาบน้ำจึงทำให้เชื่อได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นไม่ได้เสียชีวิตจากการเป็นลมล้มหน้าคว่ำไปในอ่างอาบน้ำแต่น่าจะเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายและถูกอำพรางศพด้วยการนำศพมาทิ้งไว้ในอ่างอาบน้ำนั่นเอง

       และจากการสงสัยนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พยายามสืบพยานหลักฐานต่างๆจนในที่สุดก็ทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้ดังนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปบ้านของผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวซึ่งมีบ้านพักอยู่ห่างจากสถานที่เกิดเหตุในคดีฆาตกรรมนั้นประมาณ 10 กิโลเมตรด้วยกัน

เมื่อเดินทางไปถึงก็ได้มีการขอค้นตัวชายผู้ต้องสงสัยโดยชายคนดังกล่าวนั้นชื่อว่านายสมใจซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นพบทรัพย์สินของผู้ตายอยู่ในกระเป๋าสะพายของนายสมใจจึงทำให้นายสมใจนั้นรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าเจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์นั่นเองซึ่งทรัพย์สินที่ได้ไปนั้นนายสมใจนำโทรศัพท์มือถือของผู้ชายมาเก็บไว้ในกระเป๋าอีกตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบยาเสพติดอยู่ในกระเป๋าของนายสมชัยด้วย

      ส่วนสาเหตุของการฆ่านั้นนายสมใจให้ข้อมูลว่ามีปัญหาทะเลาะกันกับเจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์เนื่องจากว่าปกติแล้วในสนใจจะนำรถของตนเองนั้นมาซ่อมที่อู่ของผู้ตายอยู่เป็นประจำซึ่งล่าสุดได้มีการนำรถจักรยานยนต์อีกคันนึงมาซ่อมเอาไว้แต่ว่าใช้ระยะเวลาในการซ่อมนานแล้วแต่ก็ยังซ่อมไม่เสร็จสักทีในวันเกิดเหตุนั้น

ในสมใจได้นำไก่ชนของตนเองมาที่บ้านของผู้ตายเพราะต้องการที่จะผสมพันธุ์ไก่ชนกันแต่ระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นนายสมใจได้มีการถามถึงรถจักรยานยนต์ที่ส่งมาซ่อมทำให้ผู้ตายนั้นหันมาตวาดใส่นายสมใจอีกทั้งยังไล่ให้นายสนใจกลับบ้านสมใจเกิดอารมณ์โมโหจึงใช้ไม้ที่วางอยู่ใกล้ๆนั้นฝ้ายไปที่ท้ายทอยของผู้ตาย 1 ครั้ง

เมื่อเห็นว่าผู้ตายล้มหน้าฟาดพื้นและฟันหักจึงเกิดกลัวความผิดขึ้นมาจึงได้มีการลากร่างของเจ้าของอู่ซ่อมรถไปไว้ในห้องน้ำและเอาหัวจุ่มลงไปในน้ำหลังจากนั้นก็เอาทรัพย์สินของผู้ตายและหนีกลับบ้านมานั่นเองจนในที่สุดก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมตัวได้

 

สนับสนุนโดย    คาสิโนออนไลน์ เครดิตฟรี

ประเทศญี่ปุ่นเตรียมออกกฏหมายห้ามใช้มือถือขณะกำลังเดิน

            เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนปี พ.ศ. 2563 ที่ประเทศญี่ปุ่น ณ เมือง yamato  จังหวัดคานางาวะ  กำลังมีการพิจารณาที่จะส่งโหวตเกี่ยวกับร่างกฎหมายเทศบัญญัติซึ่งเนื้อหานั่นก็คือการที่ห้ามประชาชนใช้โทรศัพท์ขณะที่กำลังเดินทางเธอกำลังมีการยื่นเรื่องให้มีการพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ส่วนสาเหตุที่จะต้องมีการร่างพระราชบัญญัติแบบนี้ออกมา

เนื่องจากว่าประชาชนส่วนใหญ่ตอนนี้มีการใช้โทรศัพท์มือถือโดยที่ไม่ระมัดระวังเวลาที่มีการเดินข้ามถนนดังนั้นเพื่อป้องกันการลดอุบัติเหตุจึงหวังว่าจะตั้งกฎหมายนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นนั่นเองแต่ถ้าเกิดว่ากฎหมายนี้ผ่านไม่มีปัญหาอะไรก็จะมีผลบังคับใช้ทันทีในเดือนกรกฎาคมปี พ.ศ. 2563 นี้เลย และถ้าหากเรื่องที่ทำการเสนอนิติบัญญัตินี้ผ่านพิจารณาจริงๆก็จะทำให้เมือง yamato เป็นเมืองแรกของประเทศญี่ปุ่นที่จะมีกฎหมายบังคับการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะเดินเท้าออกมา

             สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมือง yamato ได้รับรายงานเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุเวลาที่ประชาชนออกมาเดินเท้าบริเวณท้องถนนโดยพบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้งและส่วนใหญ่เมื่อหาสาเหตุว่าจะพบว่าเกิดจากการที่ประชาชนนั้นใช้โทรศัพท์มือถือโดยที่ไม่สนใจมองทางซึ่งถึงแม้ว่าจะมีกฎหมายออกมาลงโทษเกี่ยวกับเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุแล้วก็ตามแต่ก็ยังพบว่าจำนวนการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละวันนั้นสูงขึ้น

ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมือง yamato จึงเล็งเห็นถึงความปลอดภัยของประชาชนในเมืองจึงได้ลองมีการส่งเรื่องพิจารณาร่างกฎหมายการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเดินทางนี้ขึ้นมาสำหรับข้อมูลที่ทำให้ทางเทศบาลเมือง  yamato นั้นตัดสินใจที่จะมีการร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมานะคะเพราะว่าเคยมีการจำลองจากคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับเรื่องของการที่หากประชาชนประมาณ 1,500 คนนั้นเดินอยู่บนทางเท้าแต่ว่าไม่มองทางก้มหน้าจ้องแต่โทรศัพท์มือถืออย่างเดียวซึ่งเหตุการณ์จำลองนั้นทำให้เห็นว่ากลุ่มคนใน 1500 คนนั้น

มีเป็นจำนวนมากที่เดินชนนู่นชนนี่เพราะว่าไม่ได้มองทางและยังมีอีกบางส่วนที่ประสบอุบัติเหตุและบางคนก็เดินชนกันซึ่งจากการสำรองข้อมูลนี้เองทำให้มีความคิดว่าโทรศัพท์มือถือนั้นก่อให้เกิดอันตรายกับประชาชนได้หากมีการใช้ในช่วงระหว่างที่มีการเดินบนท้องถนนดังนั้นจึงได้มีการคิดหาวิธีการลดอุบัติเหตุขึ้นมา

ซึ่งจึงได้มีการพิจารณาที่จะมีการโหวตร่างกฎหมายเทศบัญญัตินี้ขึ้นมาหวังว่าหากกฎหมายนี้สามารถใช้งานได้ประชาชนก็จะปลอดภัยมากขึ้นปกติเหตุก็จะลดน้อยลงมากขึ้น  ซึ่งถือว่าเป็นการดีต่อประชาชนของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบอล ฝากขั้น ต่ํา 100 เปิดบัญชี