ความแตกต่างระหว่างร้านค้าในห้างและร้านค้านอกห้าง

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางด้านอาหารมากที่สุดจะเห็นได้ว่าประเทศไทยนั้นชื่อเรื่องของร้านอาหารที่มีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดจนถึงขณะที่ชาวต่างชาติต้องมารีวิวผ่านทางโซเชียลแนะนำเกี่ยวกับประเทศไทย

ว่าเป็นประเทศที่มีอาหารกินได้ทุกที่ทุกเวลาและสามารถหาซื้ออาหารกินได้ตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งร้านอาหารของประเทศไทยนั้นมีทั้งที่เปิดในห้างสรรพสินค้าหรือแม้แต่ตามข้างถนนทั่วไป 

ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่างร้านค้าในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าที่เปิดอยู่นอกห้างสรรพสินค้าว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรและส่งผลต่อรายได้ของเจ้าของกิจการหรือไม่ 

สำหรับตลาดการแข่งขันภายในศูนย์การค้ากับร้านที่เป็น stand alone ข้างนอกมันคนละอย่างกันเลย  เพราะการขายอาหารในศูนย์การค้าตอนนั้นมันได้เปรียบมากกว่าหลายเท่าเนื่องจากมีอยู่ 3 เหตุผลหลักๆนั่นก็คือ

 ความได้เปรียบของสัดส่วนกำไรเพราะถ้าร้านเราอยู่ในศูนย์การค้าเนี่ยโดยทั่วไปเราจะสามารถเลือกสัดส่วนกำไรได้เยอะกว่าร้านที่อยู่ข้างนอกอยู่แล้วเพราะคนที่เขาพอใจที่จะมาเดินภายในศูนย์การค้าส่วนใหญ่เขาพร้อมจะจ่ายมากกว่าคนที่เดินอยู่ข้างนอก 

มันเลยทำให้ร้านที่ขายในห้างได้เปรียบเรื่องของสัดส่วนกำไรมากกว่าเพราะร้านอาหารส่วนใหญ่ที่ไปไม่รอดเนี่ยเหตุผลก็เป็นเพราะว่าเขาไม่สามารถรักษาสัดส่วนกำไรที่มันทำให้เขาอยู่ได้

เพราะว่าต้นทุนของวัตถุดิบมันไม่เคยคงที่เนื่องจากร้านข้างนอกที่ไม่ได้มีสัดส่วนกำไรเยอะอยู่แล้วถ้าโดนปัญหาของราคาขึ้นเขาลำบากกว่าร้านที่อยู่ในห้างแน่นอน

นอกจากนี้เรื่องของคู่แข่งการขายในห้างก็ได้เปรียบกว่ามากเพราะการขายอาหารในห้างนั้นจะมีคู่แข่งน้อยกว่าเยอะมาก

ถ้าเทียบกับร้านข้างนอกห้างเหตุผลก็เป็นเพราะว่าคนที่เขามาเดินในศูนย์การค้าเนี่ยส่วนใหญ่ถ้าเขานึกอยากจะทานอะไรขึ้นมาเขาก็จะทานในศูนย์การค้าเลย ดังนั้นถ้าเราขายอยู่ในศูนย์การค้าร้านที่จะแข่งกันมันก็มีอยู่แต่ไม่มาก 

สิ่งแต่งต่างอีกอย่างก็คือ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องการหาลูกค้าเข้าร้าน  เพราะศูนย์การค้าเขาเป็นคนหาลูกค้าให้อยู่แล้ว  เพราะโดยปกติแล้วหากใครที่เดินทางมาเที่ยวห้าง พวกเขาก็มักจะต้องหาของกินที่ห้างเลย ไม่มีใครที่มาเดินห้างแล้ว เดินออกไปกินอาหารนอกห้างกันอย่างแน่นอน 

ซึ่งปัจจัยหลักๆทั้ง 3 อย่างนี้เองที่ทำให้ ร้านค้าที่เปิดขายในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าที่เปิดขายนอกห้างสรรพสินค้านั้นมีความแตกต่างกันและมีสัดส่วนของรายได้ที่แตกต่างกัน  นั่นเอง 

อย่างไรก็ตามการเปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้านั้นต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมากเพราะต้องเสียค่าเช่าที่ในราคาค่อนข้างสูงดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีโอกาสที่จะได้รายได้จากการขายสินค้าเยอะแต่รายได้ส่วนหนึ่งก็ต้องนำไปหักค่าเช่าที่ที่ค่อนข้างแสนแพงภายในห้างสรรพสินค้านั่นเอง

 

ผู้ให้การสนับสนุนเนื้อหานี้โดย     เครื่องช่วยฟัง

แนะนำตลาดโต้รุ่งที่น่าสนใจ 

   สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักตลาดโต้รุ่งที่มีของขายเยอะแยะมากมายและมีการประดับตกแต่งอย่างสวยงามซึ่งตลาดโต้รุ่งที่เราจะพาไปรู้จักในครั้งนี้นั้นมีทั้งของจังหวัดกาญจนบุรี

รวมถึงจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดมหาสารคามกันเลยทีเดียวโดยแต่ละจังหวัดนั้นก็จะมีจุดดีจุดเด่นของแต่ละจังหวัดนั่นเองมาดูกันว่าตลาดโต้รุ่งแต่ละจังหวัดนั้นน่าสนใจอย่างไรบ้าง

สำหรับตลาดโต้รุ่งได้ที่เราจะพาไปรู้จักและถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนเดินทางไปเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี

ไม่ควรพลาดก็คือตลาดโต้รุ่งที่อยู่ใกล้กับท่ารถบขสซึ่งตลาดแห่งนี้นั้นสังเกตให้ดีจะอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ด้วยตลาดแห่งนี้มีชื่อว่าตลาดโต้รุ่งเมืองกาญนั่นเอง

ตลาดโต้รุ่งแห่งนี้มีของขายเยอะแยะมากมายทั้งเสื้อผ้าและของที่ระลึก  โดยตลาดนั้นมีความยาวเดินจากริมถนนไปจนถึงริมแม่น้ำแควเลยทีเดียวนอกจากนักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับกองกินของช้อปปิ้งแล้ว

ยังเพลิดเพลินกับความสวยงามของแม่น้ำแควค่ำคืนที่มีการประดับแสงสีเอาไว้อย่างสวยงามเลยทีเดียว

หากใครได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีก็อย่าลืมไปเที่ยวตลาดโต้รุ่งแห่งนี้ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 17:00 น ไปจนถึงเที่ยงคืนนั่นเอง 

สำหรับตลาดโต้รุ่งแหล่งที่ 2 นั้นเป็นที่จังหวัดอุบลราชธานีซึ่งตลาดโต้รุ่งแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าตลาดโต้รุ่งทุ่งศรีเมืองซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีก 1 แห่งที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวและชาวจังหวัดอุบลราชธานี

โดยตลาดโต้รุ่งแห่งนี้นั้นอยู่ใกล้กับศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนั่นเองดังนั้นนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับอาหารการกินทั้งอาหารประจำท้องถิ่นและอาหารจังหวัดอื่นๆ

นอกจากนี้เมนูยอดฮิตที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวก็มีเยอะแยะมากมายอย่างเช่นอาหารเวียดนามก็มีเป็นต้น

ซึ่งถือได้ว่าเป็นอาหารเวียดนามสูตรตำหรับของเวียดนามโดยตรงกันเลยทีเดียวสำหรับตลาดโต้รุ่งแห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวสามารถที่จะซื้อกลับไปกินที่บ้านหรือว่าจะนั่งกินที่ตลาดก็ได้เพราะมีโต๊ะคอยบริการนักท่องเที่ยวโดยสามารถเดินทางไปได้ทุกวันตั้งแต่ 5 โมงครึ่งจนถึง 22:00 น 

ตลาดโต้รุ่งมหาสารคามเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวซึ่งจังหวัดมหาสารคามถึงแม้จะไม่ใช่จังหวัดใหญ่แต่ก็มีหล่องท่องเที่ยวที่น่าสนใจและหนึ่งในนั้นก็คือตลาดโต้รุ่งที่อยู่ด้านหลังของโรงหนังในตัวเมืองของจังหวัดนั่นเอง

ซึ่งตลาดแห่งนี้นั้นเป็นตลาดที่ช่วงกลางคืนนั้นคึกคักมากมายเพราะมีทั้งนักท่องเที่ยวนักศึกษาและคนในพื้นที่ออกมาซื้อของกินกันอย่างคับคั่ง

นอกจากนี้ตลาดแห่งนี้ยังขายของในราคาย่อมเยาและถ้าหากใครสนใจอยากจะไปท่องเที่ยวตลาดโต้รุ่งมหาสารคามก็เดินทางไปได้ตั้งแต่ 4 โมงครึ่งจนถึงเที่ยงคืนของทุกวันเช่นเดียวกัน 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังต้องใส่กี่ข้าง

โอกาสทางเศรษฐกิจและประสบการณ์การเดินทางที่เชื่อมโยงกัน

ธุรกิจและการท่องเที่ยวเป็นสองปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง การเดินทางเพื่อธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตลาดและการสร้างเครือข่ายทางเศรษฐกิจ ในขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจในหลายประเทศ การผสมผสานระหว่างธุรกิจและการท่องเที่ยวจึงสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ

“ธุรกิจการท่องเที่ยว” เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทั้งโรงแรม สายการบิน บริษัทนำเที่ยว และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว หรือสิงคโปร์ ไม่เพียงเป็นที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติ แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์

“การเดินทางเพื่อธุรกิจ” หรือ Business Travel เป็นส่วนสำคัญของภาคธุรกิจระดับโลก นักธุรกิจต้องเดินทางเพื่อพบปะลูกค้า เจรจาธุรกิจ หรือเข้าร่วมงานประชุมระดับนานาชาติ ทำให้มีความต้องการด้านที่พัก สถานที่ประชุม และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักเดินทางอย่างต่อเนื่อง

ในยุคดิจิทัลที่การทำงานทางไกล (Remote Work) และ Workation (การทำงานไปพร้อมกับการท่องเที่ยว) กำลังเป็นที่นิยม หลายบริษัทเริ่มเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถทำงานจากสถานที่ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ริมทะเล วิลล่ากลางขุนเขา หรือโคเวิร์กกิ้งสเปซในเมืองสำคัญ แนวคิดนี้ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ และทำให้การทำงานไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

นอกจากนี้ อุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentives, Conferences, and Exhibitions) หรือการจัดงานประชุมและนิทรรศการระดับนานาชาติก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เมืองท่องเที่ยวดึงดูดกลุ่มนักเดินทางเพื่อธุรกิจ เมืองอย่าง ดูไบ บาร์เซโลนา และกรุงเทพฯ เป็นตัวอย่างของจุดหมายปลายทางที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมนี้

อีกหนึ่งแนวโน้มที่สำคัญคือ Sustainable Tourism หรือการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน บริษัทหลายแห่งเริ่มให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือการเดินทางด้วยสายการบินที่มีนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

ธุรกิจและการท่องเที่ยวเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมกันและกัน นักเดินทางเพื่อธุรกิจสามารถใช้โอกาสระหว่างการเดินทางเพื่อสำรวจวัฒนธรรมของประเทศปลายทาง ขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการที่ตอบสนองความต้องการของนักเดินทางทั่วโลก

ในโลกที่เชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น การผสมผสานระหว่างธุรกิจและการท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังทำให้การทำงานและการเดินทางกลายเป็นประสบการณ์ที่มีความหมายมากขึ้นสำหรับทุกคน