เนื่องจากนี้เรื่องของการชุมนุมรวมตัวของนักเรียนและนักศึกษากำลังจะกลายเป็นตัวกระตุ่นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆเพราะว่าเวลานี้การขยายตัวของนักเรียนและนักศึกษานั่นได้เติบโตขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้งภายในสัปดาห์นี้จะมีการชุมนุมใหญ่ของนักศึกษาที่ธรรมศาสตร์เกิดขึ้นในวันที่10สิงหาคม
ซึ่งหลายคนประเมินว่าน่าจะเป็นการชุมนุมที่มีนักศึกษามากมายเพราะวาการชุมมนุมของนักศึกษาที่แฟลชม็อบครั้งที่แล้วก็เต็มไปด้วยจำนวนของนักศึกษาทั้งในและนอกธรรมศาสตร์เพราะฉะนั้นในการชุมนุมครั้งนี้น่าจะมีคนรวมเข้าเยอะและน่าจะเป็นการชุมนุมที่ทำให้การยกระดับในการเรียกร้องรัฐธรรมนูญใหม่ผลักดันให้มีการยุบสภาหรือการหยุดคุกคามประชาชนนั้นได้ขยายตัวมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้การชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ที่กำลังจะมีขึ้นนั้นจะมีกลุ่มเด็กอาชีวะของจริงได้เข้ามารวมด้วยไม่ใช่อาชีวะสายรัฐบาลอาชีวะพลังประชารัฐแต่เป็นกลุ่มของเทคโนปทุมได้ประกาศแล้วว่าจะขนเด็กอาชีวะจากเทคโนปทุมเข้าร่วมชุมนุมกับนักศึกษาธรรมศาสตร์ ในวันที่10สิงหาคม ในระดับนักเรียนมัธยมนั้นการรวมตัวของนักเรียนได้ขยายตัวกันอย่างต่อเนื่อง
หลังจากเด็กเตรียมอุดมกำลังรวมตัวเด็กสตรีวิทย์2รวมตัววันที่7สิงหาคมนักเรียนหอวังได้ประกาศที่จะเตรียมตัวเคลื่อนไหวภายในโรงเรียนกันที่หน้าอาคารตึก10 ในวันที่7สิงหาคม เวลา15.30น. เคลื่อนไหวในทวีตเตอร์ผ่านแฮชแท็กหอวังจะพังเผด็จการและกิจกรรมเคลื่อนไหวไม่ได้มีอะไรรุนแรงยืนถือกระดาษเปล่าและทวงถามคืนประชาธิปไตคืน10ครั้งแต่กลับกลายมาเป็นว่า
ซึ่งได้มีการประกาศข่มขู่นักเรียนนักศึกษาได้เกิดขึ้นแล้วที่โรงเรียนหอวังและยังได้มีรูปภาพจากในทวีตเตอร์จากเพจสภาภาพนักเรียนและนักศึกษาและทวีตเตอร์ของนักเรียนหอวังเองได้บอกว่า ครูข่มขู่ห้ามนักเรียนเข้าไปทำกิจกรรมนี้อย่างเด็ดขาดข่มขู่ถึขั้นบอกว่าให้ผู้ปกครองไปเตือนลูก
ถ้าหากว่าได้มีใครเข้าไปร่วมชุมนุมของโรงเรียนหอวังจะถูกไล่ออกอย่างเดียวเพราะฉะนั้นได้มีการเคลื่อนไหวของธรรมศาสตร์การเคลื่อนไหวของเทคโนปทุมและได้มีการเคลื่อนไหวของเด็กนักเรียนหอวัง
ซึ่งในเวลานี้ได้ถูกข่มขู่จากครูแล้วว่าจะไม่ให้เด็กๆนั้นจัดกิจกรรมใครที่ได้ไปเข้าร่วมนั้นก็จะถูกไล่ออกทันทีและนี่ก็คือบรรยากาศที่ได้เกิดขึ้นในปัจจุบันเพราะฉะนั้นมันก็ยังได้เป็นบรรยากาศคุกคามนักเรียนและนักศึกษามันยังคงเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ทว่าในขณะเดียวกันในด้านของการขยายตัวนั้นของนักเรียนและนักศึกษานั้นมันกลับกลายมาเป็นตัวแปลเป็นความกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงท่าทีของรัฐบาลและทางด้านรัฐธรรมนูญกันอย่างต่อเนื่องนั่นก็คือในการตื่นตัวของนักเรียนและนักศึกษาที่กำลังทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของภาครัฐในการแก้รัฐธรรมนูญ
สนับสนุนโดย dewabet