ดราม่า ต่อคิวซื้อรองเท้าหากบอกรุ่นไม่ได้พนักงานยกเลิกคิวทันที 

คนไทยหลายคนเป็นจำนวนมากที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าแบรนด์เนมโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกกระเป๋าแบรนด์เนมหรือรองเท้าแบรนด์เนมหากมีสินค้าออกมาใหม่ 

หรือสินค้าลดราคาและมีการประกาศล่วงหน้าส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ชื่นชอบสินค้าประเภทดังกล่าวก็มักจะมีการไปต่อคิวแต่เช้าเพื่อรอห้างเปิดหลังจากนั้นก็จะรีบเข้าไปช้อปปิ้งสินค้าลดราคาหรือสินค้าที่ออกมาใหม่แล้วเป็นแบบรุ่น Limited เพื่อเก็บสะสมเอาไว้

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 27 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ 2561  ได้มีรองเท้าแบรนด์หรูแบรนด์หรู แบรนด์หนึ่งเป็นแบรนด์ที่นำสินค้าจากต่างประเทศนำมาขายในประเทศไทยและแบรนด์นี้ได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอย่างมาก

มีผู้คนที่ชื่นชอบรองเท้าแบรนด์นี้กันเป็นจำนวนมากได้มีการประกาศว่าจะมีการลดราคาบางรุ่นทำให้ผู้คนรีบพากันไปต่อแถวเพื่อรอเวลาร้านเปิด  เพื่อที่จะได้ซื้อรองเท้าลดราคาแบรนด์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตามกลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาทันทีหลังจากที่ได้มีเพจแนะนำเกี่ยวกับสินค้าแบรนด์เนมลดราคาได้นำเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าร้านรองเท้าแบรนด์ดังกล่าว  ว่าพนักงานของร้านจะเดินเข้ามาสอบถามลูกค้าที่มาต่อแถวเพื่อรอซื้อรองเท้าซึ่งถ้าหากว่าลูกค้าคนไหนไม่สามารถบอกข้อมูลรุ่นและยี่ห้อรองเท้าที่ถูกต้องที่ทางร้านลดราคา

หรือทางร้านมีจำหน่ายได้พนักงานของทางร้านจะมีการเชิญลูกค้าให้ออกจากแถวทันทีโดยอ้างว่าต้องการรักษาสิทธิ์ให้กับลูกค้าของทางร้านที่สนใจอยากจะซื้อรองเท้าจริงๆและไม่ต้องการให้คนที่รับต่อคิวแทนพ่อค้าแม่ค้ามา ซื้อไปแล้วจะมีพ่อค้าหรือแม่ค้านำไปขายต่อตามเพจต่างๆหรือตามโซเชียลในราคาที่ค่อนข้างแพง 

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวโซเชียลต่างก็พากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กับการทำงานของพนักงานร้านรองเท้าแบรนด์ดังกล่าวเป็นอย่างมากโดยหลายคนที่ได้เห็นคลิปเหตุการณ์นั้นมองว่าพนักงานคัดกรองลูกค้านั้นให้บริการไม่เหมาะสมแสดงสีหน้าไม่ยิ้มแย้ม  และมีลักษณะท่าทางเหมือนกับดูถูกลูกค้า  

สำหรับเรื่องราวดังกล่าวนั้นจบลงด้วยการที่พนักงานที่เกิดเป็นกระแสได้มากในโลกออนไลน์ไม่ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลฝั่งของตนเองแต่กลับมีคนมาอธิบายแทนโดยอ้างเป็นน้องสาวของพนักงานคนดังกล่าวซึ่งระบุว่าพี่สาวเป็นคนที่หน้าตาไม่ยิ้มแย้มและหน้าตาค่อนข้างดูดุและดูหยิ่งอยู่แล้วแต่พี่สาวไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำการดูถูกหรือเหยียดหยามลูกค้าแต่อย่างใด

นอกจากนี้ทางด้านเพจที่นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ในโลกออนไลน์จนทำให้เกิดกระแสดราม่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ของชาวโซเชียลนั้นก็ได้มีการลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

สนับสนุนโดย    ole777

ขยะอันตราย บักตูบ โดนเทไม่เอานายกสมองกลวง

เมื่อเวลาของนายประยุทธ์ใกล้จะหมดลงแล้วหลายฝ่ายได้เห็นพร้อมว่าต้องหันหน้าหนีจากผู้นำที่บริหารประเทศห่วยๆแบบนี้และสมควรที่จะเททิ้งได้แล้ว

จากปรากฎการณ์ที่บ้านเมืองเป็นอยู่ทุกวันนี้มันแสดงให้เห็นการบริหารงานของรัฐบาลที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้

โดยในวันนี้พรรคก้าวไกลได้ยื่นหนังสือต่อประธานสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและในวันเดียวกันกลุ่มพวก60สว.ก็ได้มีการประชุมหาลือกันแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะที่ประชาชนชาวบ้านร้านประหลาดก็บ่นเ็นเสียงเดียวกันว่าวิกฤตเศรษฐกิจปีนี้แย่มากที่สุดในประวัติศาสตร์

นอกจากนี้เราจะขอยกตัวอย่างของคุณใบตองแห้งมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกันกล่าวว่าดูท่าทีว่านายประยุทธ์กำลังจะโดนเทไม่ใช่แค่60สว.แต่ขนาดหมอผีหัวฟูยังเทเลยบ่งบอกได้ว่านายประยุทธ์อาการหนักเอาเรื่องอยู่นะจากนี้ยังมีพรรคประชาธิปัตพรรคร่วมก็ได้มาลงชื่อกับก้าวไกล อาทิศเสนอนายกคนนอกแม้เราไม่เอานายกคนนอกแต่มองอีกด้านก็คือเทนายประยุทธ์

ซึ่งรวมไปถึงความฝันของคนชั้นกลางของยุค ร.9 ที่ได้มีการยุติพฤษภาทมิฬแต่เมประยุทธ์แล้วจะทำยังไงนายกคนนอกก็จะหาใครเข้ามาไม่ได้ในสังคมไทยยังมีคนกลางเป็นที่ยอมรับอยู่อีกหรือ

รัฐบาลประหารนั้นมันสามารถที่จะทำได้ทุกเมื่อแต่ก็ไปไม่รอดมันจะทำให้การพินาศอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นทั้งระบอบแก้ปัญหาในสภาลาออกใครจะเข้ามาเป็นประชาธิปัตเน่าหมดแล้วอนุทินตัวตลกฝ่ายค้านก็ไม่ได้เป็นเหงไม่มีศักยภาพพอด้วยแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ใช้เวลานานมากวิกฤตไม่รอกระแสประชาชนก็ไม่น่าจะไม่ทนกับการตั้ง สสร. แบบพรรคร่วมรับบาล

สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นนั้นก็คือการดิสรัปชั่นของระบอบผู้ที่ดันทุรังมาจนสายเกินไปจนเกิดวิกฤตเกิดการลุกฮืออย่างที่อำนาจนั้นทำอะไรไม่ได้ก็ไขไม่ได้ต่อให้ทำการรัฐประหารกันเองสมมุติว่ามีทหารรัฐประหารโค้นนายประยุทธ์ก็แก้ปัญหาไม่ตกแก้วิกฤตไม่ได้ทำให้ประชาชนทั่วประเทศนั้นพอใจไม่ได้

นอกจากนี้มันก็หมดเวลาของนายประยุทธ์แล้ว ณ บัดนี้และดูเหมือนว่ามันจะเป็นการยุ่งยากมากในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ คสช. ได้ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเดิมและได้เขียนขึ้นมาใหม่และในวันเดียวกันนี้ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อจากพรรคก้าวไกลนำทีมยื่นญัตติร่างแก้รัฐธรรมนูญเพิ่มเต็มให้ยกเลิกมาตร272ของรัฐธรรมนูญของปี2560ว่าด้วยอำนาจของสว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อประธานสภา

ซึ่งในการยื่นครั้งนี้ได้มีการรับรองญัตติจาก99คนจาก13พรรคการเมืองโดยทั้งนี้พรรคก้าวไกลได้เปิดเผยว่ามี สส. จากประชาธิปัตและภูมิใจไทยร่วมลงชื่อรับรองญัตติด้วย

 

 

สนับสนุนโดย  ole777