น.ศ.เตรียมเดินขบวนไปทำเนียบหลัง19กันยายน

วันนี้ที่สภาได้เกิดเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งเมื่อวานนี้ได้มีญัตติของ99สส. ซึ่งก้าวไกลรวมไปถึงพรรคฝ่ายค้านทั่งหมดได้ลงชื่อรวมกันยกเว้นพรรคเพื่อไทยแล้วก็มีพรรคประชาธิปัตภูมิใจไทยรวมถึง สส. ชาติไทยพัฒนารวมด้วยในการจะตัดอำนาจของ250 สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี

ปรากฎว่าตลอดทั้งวันนี้ในช่วงเช้านั้นบิ๊กรัฐบาลหรือขาใหญ่รัฐบาลได้มีการกดดันจนกระทั่ง สส. ที่เปิดเผยแล้วอย่างน้อยก็3คนจากชาติไทยพัฒนาหนึ่งคนคุณสุรทินจากพรรคภูมิใจไทยไปหนึ่งคนและพล.ต.ทรงกลดได้มีการถอนตัวไปจึงทำให้มีจำนวน  สส. จาก99คนได้หายไป

โดยเบื้องต้นคือ6และได้มีรายงานว่ามีพรรคประชาธิปัตอีก5ได้หายตัวไปและทั้งหมด99คนนั้นคือจำนวนขั้นต่ำสุดที่จะเปิดญัตติได้เมื่อ99คนหายไปอย่างน้อย3หรือมันอาจจะถึง8จำนวนญัตติที่จำเป็นที่จะต้องใช้เสียงของ สส.ก็คือ98ก็ตกไปทันทีเป็นสัญญาณของเผด็จการรัฐสภาเรียบร้อยแล้วเอกสิทธิ์ของ สส. ในการตรวจสอบ

ในการยื่นญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นถูกคุกครามจากบิ๊กรัฐบาลที่มีความกังวลต่อการอยู่ในอำนาจ ครม. ของตัวเองมากกว่าจะเปิดโอกาสให้สภาได้ทำงานอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ในบรรยากาศของกลไกลสภาที่เพื่อไทยที่ก้าวไกลที่ฝ่ายประชาชนอยากเห็นในการนำเอาประเทศออกจากความขัดแย้งนั้น

แม้กระทั่งเรื่องง่ายๆอย่าง250สว. รัฐบาลนายประยุทธ์ได้ประกาศอย่างขัดเจนแล้วว่าไม่ยอมให้มีการแก้ไขและที่เลือกก็คือการเล่นละครแสดงเก่งเป็นละครที่ลวงโลกเท่านั้นต่อไปแล้วและจะต้องจับตามองดูว่าในญัตติของเพื่อไทยนั้นจะถูกนายประยุทธ์สกัดขัดขวางเมื่อไร

เกมการเมืองในเวลานี้เกมการเคลื่อนไหวหลักจึงกลับไปอยู่ที่นอกสภาที่จะต้องยอมรับว่าความเคลื่อนไหวของนักเรียนและนักศึกษาประชาชนนั้นคือปัจจัยหลักที่รัฐบาลนายประยุทธ์ที่เป็นคนให้กำเนิดรัฐธรรมนูญ2560ตั้งกติกาที่นายประยุทธ์ตั้งวุฒิสมาชิก250คนมาเลือกตัวเองเป็นนายกเลี่ยงต่อการถูกแก้ไขมากที่สุด

ณ วันนี้สถานการณ์ทางสภาน่าเป็นห่วงเพราะเผด็จการรัฐสภาฝั่งรัฐบาลปิดโอกาศที่จะตัดอำนาจของ250 สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรีไปเรียบร้อยแล้วคำถามคือนักเรียนนักศึกษาจะทำอย่างไรต่อไป

แน่นอนว่าในช่วงที่ผ่านมานั้นได้มีการชุมนุมของนักศึกษาอย่างต่อเนื่องและในทิศทางการการชุมนุมนั้นได้มีประชาชนเข้ามารวมกันมากขึ้นเรื่อยๆจากเยาวชนปลดแอก18กรกฎาคม สู่ประชาชนปลดแอก16สิงหาคม ขยายไปทั่วประเทศไม่หยุดยั้ง

แม้กระทั่งม๊อบนักเรียน19กันยายนนัดหมายครั้งสำคัญของการชุมนุมคราวนี้จัดโดยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้ประกาศไปเรียบร้อยแล้วว่า19กันยายน เจอกันแน่นแต่ทันทีที่มีการคว่ำญัตติการตัดอำนาจวุฒิสมาชิกในการเลือกนายกโดย สส. ฝ่ายรัฐบาลมาถอนญัตติจนญัตติล่มนั้น

วันนี้นักศึกษาได้แถลงข่าวว่านอกจากชุมนุม19กันยายนจะเกิดขึ้นแน่นๆแล้วนั้นพวกเขาก็จะยกระดับไป2ข้อ ข้อที่1จะเป็นการชุมนุมค้างคืนด้วย

 

 

สนับสนุนโดย  หวยลาวชุด 120

นายประยุทธ์ลาออกเท่านั้นประเทศไทยสงบแน่นอน

สถานการณืทางการเมืองวันนี้ในสายตาของประชนวันนี้นายประยุทธ์ไม่ใช่นายกที่ประชาชนต้องการต้นทุนที่ต่ำจากปี2557ทบถมด้วยต้นทุนที่ติดลบไปอีกจากการเป็นนายกทั้งที่ฝั่งตัวเองไม่ได้ชนะการเลือกตั้งในปี2562

เพราะฉะนั้นบรรยากาศทางการเมืองทั้งหมดตึงเครียดเผชิญหน้าเมื่อวานนี้การจับกุมทนายอานนท์ และ ไมค์ ภานุพงษ์ เข้าเรือนจำเป็นสถานการณ์ที่หลายคนได้ประเมินว่าน่าจะทำให้อารมณ์ของประชาชนต่อกองทัพหรือต่อนายประยุทธ์ก็เริ่มมีทวีคูณความรุนแรงเพิ่มขึ้นมาไปอีกและอาจจะกลายเป็นสถานการณ์ดาบสองคมก็เป็นได้

ซึ่งในคมที่หนึ่งก็คืออาจจะทำให้ความไม่พอใจของประชาชนต่อรับบาลรุนแรงมากขึ้นจนกระทั่งการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่19กันยายน นั้นได้มีผู้ชุมนุมเป็นแสนอย่างแน่นอนและเป็นการชุมนุมที่ได้มีการเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ที่ถนนราชดำเนิน

โดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก18กรกฎาคม และกลุ่มประชาชนปลดแอกอีกเช่นเดียวกันในวันที่18สิงหาคม นั้นจำนวนประชาชนร่วมชุมนุมนั้นได้มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยอย่างไม่หยุดยั้งหลังจาก วันที่18สิงหาคม จนมาถึงปัจจุบันนั้นความตื่นตัวของประชาชนมีมากร่องรอยของการต่อต้านการต่อสู้กับอำนาจรัฐนั้นได้เกิดขึ้นแทบทุกจุด

เมื่อวานนี้ได้มีการรวมตัวของนักเรียนเตรียมอุดมพยายามจะปราศรัยต่อต้านเผด็จการตำรวจขับรถไปขวางไม่ให้คนนอกโรงเรียนไม่ให้โรงเรียนอื่นเข้าสู่ภายในโรงเรียนได้เด็กเตรียมจัดการปราศรัยภายในโรงเรียนส่วนเด็กโรงเรียนอื่นได้จัดทำการปราศรัยที่ด้านนอกของโรงเรียน

ซึ่งมันได้เป็นบรรยากาศอย่างที่เราไม่เคยพบเคยเห็นเด็กนักเรียนของแถวหน้าของประเทศต่อต้านเผด็จการตำรวจขัดขวางในที่สุดเด็กเตรียมปราศรัยในโรงเรียนส่วนเด็กโรงเรียนอื่นก็จัดปราศรัยด้านนอกรั้วของโรงเรียนแต่เป็นบรรยากาศของการเรียกร้องประชาธิปไตย เช่นเดียวกันกับ

เมื่อวานนี้เบญจมราชาลัยโรงเรียนหญิงชั้นต้นของประเทศได้มีกิจกรรมนักเรียนหญิงตั้งแต่มัธยมปลายไปจนถึงมัธยมต้นได้ผูกโบว์สีขาวชูสามนิ้วแล้วได้เอาตัวเองต่อแถวเป็นรูปสัญลักษณ์สามนิ้วประกาศว่า ( เผด็จการจงพินาศ  ประชาธิปไตยจงเจริญ ) 

นอกจากนี้ได้เป็นเผด็จการที่เป็นบรรยากาศที่เราไม่เคยเห็นมาในประเทศไทยอีกเหมือนกันนักเรียนหญิงล้วนน่าจะมีมัธยมต้นด้วยในกลุ่มซ้ายสุดได้เรียงแถวแปลอักษรของมนุษย์การชูสามนิ้วชูสัญลักษณ์ของการต่อต้านเผด็จการในสังคมไทย

สำหรับที่จังหวัดขอนแก่นก็ได้มีประชาชนออกมารวมตัววิพากษ์วิจารณ์การที่ตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับประชาชนรวมทั้งฝั่งตำรวจได้มีแนวคิดที่จะรื้ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทิ้งไปแล้วอย่าลืมไปว่าขอนแก่นนั้นคือเมืองหลวงของคนที่รักในประชาธิปไตยที่อีกสานชุมนุมเรื่องประชาธิปไตยที่ยุบสภาที่ไหนนั้นที่ขอนแก่นที่มหาสารครามบรรยากาศแทบแตก

ซึ่งพรุ่งนี้5กันยายน จะมีการชุมนุมที่กระทรวงศึกษาม๊อบนักเรียนเป็นม๊อบใหญ่ตอนนี้กลุ่มม๊อนนักเรียนที่จะมาชุมนุมที่หน้ากระทรวงศึกษานั้นเครือข่ายาโรงเรียนดังๆในกรุงเทพรวมกันแล้วประมาณ50แห่ง

 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบอล ฝากขั้นต่ำ100

ถูกทวงเงินแค่ร้อยกว่าบาททำหนุ่มใหญ่โมโหยิงเพื่อนคาวงเหล้า 

          ที่จังหวัดศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ตำรวจสภอุทุมพรพิสัยได้รับแจ้งเหตุมีการยิงกันเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งช่วงเวลาประมาณ 20:20 น.เหตุเกิดวันที่ 23 เมษายนปีพศ 2563   เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุก็พบศพนายอุปกรณ์นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่โดยบ้านหลังเกิดเหตุนั้นเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งชั้นบนจะเป็นทำด้วยไม้ส่วนชั้นล่างจะถูกสร้างด้วยปูนลักษณะของศพนั้นถูกปืนยิงถูกร่างกายจำนวน 4 นัดด้วยกัน

โดยนะที่ทำให้เสียชีวิตนั้นคือกระสุนปืนที่ยิงจากปากทะลุท้ายทอยออกไปในบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นพบมีร่องรอยการดื่มสุรากันเนื่องจากว่ามีขวดเหล้าวางอยู่และยังมีกับแกล้มวางอยู่เต็มไปหมดและคนที่ลงมือก่อเหตุยิงนายทิพากรนั้นซึ่งขนาดนั้นยังนั่งรอมอบตัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ไม่ได้หนีไปไหนแต่อยู่ในลักษณะของอาการมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่องโดยทางเจ้าของบ้านแจ้งว่าตนเอง

ชื่อนายณรงค์ซึ่งเขายอมรับว่าก่อนเกิดเหตุนั้นเขาและผู้ตายได้ชักชวนกันมากินเหล้าที่บ้านหลังจากนั้นก็มีการพูดจากันแล้วเกิดพูดจาผิดหูกันซึ่งมีบางช่วงที่นายทิวากรได้มีการทวงเงินประมาณ 100 กว่าบาททำให้เขาซึ่งขนาดนั้นอยู่ในอาการมึนเมาเกิดความไม่พอใจจึงได้ไปนำปืนออกมาสิ่งไหนที่ประกอบจนเสียชีวิต  

จากการสอบถามญาติของผู้ก่อเหตุชื่อว่านายบัวพันธ์ทราบว่าทั้งนายณรงค์และนายทิพากรนั้นต่างก็เป็นญาติพี่น้องกันซึ่งในที่พักรนั้นเป็นหลานชายของนายณรงค์ปกติแล้วทั้งสองคนก็จะชักชวนกันมากินเหล้าเป็นแบบนี้ประจำทุกวันอยู่แล้วโดยในวันที่เกิดเหตุนั้นช่วงประมาณ 19:00 นนายบัวภานยังเห็นว่าทั้งสองคนยังนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่หน้าบ้านซึ่งบ้านของนายบัวพันนั้นอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุแค่เพียง 50 เมตรเท่านั้น

โดยช่วงที่มีการยิงกันนั้นในบัวพันเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 5 นัดแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเนื่องจากว่าโดยปกติแล้วเมื่อทั้งคู่กินเหล้าเมาแล้วก็มักจะเอาปืนออกมายิงขึ้นฟ้าเล่นอยู่บ่อยครั้งจึงไม่ได้สนใจเมื่อได้ยินเสียงปืนแต่หลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาทีภรรยาของนายบัวผันซึ่งตอนนั้นออกไปทำธุระข้างนอกได้ออกมาบอกนายบัวพันว่านายณรงค์ใช้อาวุธปืนยิงนายทิพากร

จึงทำให้นายประพันธ์โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดูส่วนทั้งสองคนจะทะเลาะกันเรื่องอะไรนั้นนายบัวพันธุ์บอกว่าไม่ได้สนใจอะไรไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเพราะว่าไม่อยากจะยุ่งกับคนทั้ง 2 คนเนื่องจากว่าเวลาเมาชอบโวยวาย ต้องเสียงดังนั้นเองจึงไม่อยากไปยุ่งด้วยส่วนเรื่องของการประกันตัวในนรกนั้นทางไหนบัวพันเองยืนยันว่าจะไม่ประกันตัวอย่างแน่นอนเนื่องจากว่าไม่มีเงินมากพอ

 

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์บาทละ 1000

หมอรักษาอาการโดนคุณไสย  โดนประจานว่าทำอนาจารคนป่วย

        ที่จังหวัดตราด มีชาวบ้านได้ออกมาเล่าลือถึงวิธีการขับไล่คุณไสย ของหมอไสยศาสตร์คนหนึ่งซึ่งเขาเป็นชาวจังหวัด กาญจนบุรี ชื่อว่า นายสายนต์ ซึ่งนายสายนต์ได้เดินทางมาที่จังหวัดตราด และได้มาเปิดสำนักรักษาคนที่โดนคุณไสย ซึ่งเรื่องราวที่เกิดเป็นเรื่องโด่งดังในครั้งนี้ก็เพราะว่า มีการเผยแพร่คลิปขั้นตอนการรักษาอาการโดนคุณไสยด้วยการเอามือจับหน้าอกและจับจิ๋มของหญิงสาวที่มารักษาอาการโดนคุณไสย

ทำให้ชาวบ้านต่างพากันพูดถึงเรื่องวิธีการรักษาอาการคุณไสยในครั้งนี้กันอย่างกว้างขวาง   ซึ่งเมื่อวันที่ 10 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2563   นายสายนต์ก็ได้ มารักษาชาวบ้านอีก 3 คนที่มีอาการป่วยเพราะว่าโดนคุณไสย ซึ่งทั้งสามคนนั้นเป็นผู้ชายทั้งหมด

  ซึ่งมีคนจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางมาถึงที่จังหวัดตราดเพราะต้องการมากรักษากับนายสายนต์ รวมถึงยังมีคนกรุงเทพอีกสองคนต่างก็พากันเดินทางไปหานายสายนต์ถึงที่จังหวัดตราดเพียงเพราะต้องการให้นายสายนต์รักษาอาการโดนคุณไสยให้   โดยการรักษาคนที่โดนคุณไสยนั้น นายสายนต์บอกว่าจะมีการอาบน้ำมนต์ให้ และจะใช้มีดหมออาคมจี้ไปตามจุดต่างต่างในร่างกายเพื่อที่จะได้ไล่คุณไสยออกจากตัวคนป่วยได้

โดยนายสายนต์บอกว่าเขาคิดค่าครูในการรักษาเพียงแค่คนละ 32 บาทเท่านั้น ไม่เคยคิดเงินด้านอื่นเพิ่มเลย แต่ส่วนใหญ่แล้วเมื่อมีคนติดต่อมาขอรักษาอาการโดนคุณไสยแล้วพวกเขาหายดี พวกเขาก็จะนำเงินกลับมาตอบแทนตนในภายหลัง โดยเขายืนยันได้ว่าไม่เคยเรียกร้องเงินทองกับชาวบ้านเลย

  สำหรับเรื่องราวก่อนที่จะมาเป็นหมอปราบคุณไสยนั้น นายสายนต์เล่าว่าเดิมที่เขามีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่เขาประสบอุบัติเหตุที่มีความรุนแรงมากตั้งสามครั้งแต่เขาก็รอดมาทุกครั้งทำให้เขาสงสัยว่าเพราะอะไร จนมีหมอบอกว่าตัวเขานั้นมีองค์เทพคอยปกป้องนับแต่นั้นเขาจึงไปทำการร่ำเรียนวิชาทางด้านไสยศาสตร์และหลังจากร่ำเรียนจบมาแล้วเขาก็ออกมาเปิดสำนักรักษาชาวบ้าน 

ซึ่งเขาเองรักษาคนป่วยมาแล้วหลายคนและทุกคนต่างก็หายจากอาการป่วยทั้งที่พวกเขาเหล่านั้นต่างก็เคยไปรักษากับหมอที่โรงพยาบาลมาแล้ว แต่ไม่หายสักที แต่พอมารักษากับตนแล้วหายทำให้ การรักษาของเขากลายเป็นการสร้างชื่อเสียงให้เขาโด่งดังไปทั่ว ส่วนเรื่องที่บอกว่าเขารักษาคนป่วยผู้หญิงแล้วทำอนาจารหรือข่มขืนคนป่วยนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริง มือถือ

ประชาชนเผากงเต็กหน้าสภาไล่รัฐธรรมนูญ60 นายประยุทธ์

 

ซึ่งสถานการณ์ที่หน้าสภาวันนี้คู่นานกันไปประชาชนต้องการให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อหาทางออกของประเทศจากการมีวุฒิสมาชิก

ซึ่งนายประยุทธ์ได้ตั้ง250คนมาเลือกนายประยุทธ์ให้เป็นนายกตลอดกาลแต่ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้นั้นโดยกระบวนการทางกฎหมายวันนี้แทบไม่สามารถที่จะทำได้จึงได้มีการรวมตัวของประชาชนกลุ่มหนึ่งได้เรียก ครช. ได้รวมตัวกันทำกฎหมายประชามติเพื่อปลดล็อกให้มีการจัดธรรมรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แบบที่สกัดอำนาจของวุฒิสมาชิกที่ได้มาจากการแต่งตั้งของนายประยุทธ์250คนไปมันเป็นความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศกลับสู่ระบบประชาธิปไตรอย่างสันติ

ในเวลาที่พรรคร่วมรัฐบาลหรือแม้กระทั่งนายประยุทธ์เองและนายประวิตรเองก็ได้ออกอาการขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญส่งมือไม้ไม่ว่าจะเป็นส่งวุฒิสมาชิกกลุ่มต่างๆของพรรคประชารัฐได้ออกมาขัดขวางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่องมันเป็นบรรยากาศที่มันจะแสดงให้เห็นสัญญาณใหม่ว่าในที่สุดแล้วนั้นทางสภาเองคงจะไม่สามารถขัดขวางความพยายามของการแก้ไขรัฐธรรมนูญของการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ซึ่งจะปลดประเทศไทยออกจากการปกครองของนายประยุทธ์ผ่านวุฒิสมาชิก250คนที่ได้มีนายประยุทธ์เลือกเองและได้ผ่านพรรคพลังประชารัฐที่นายประยุทธุและนายประวิตรได้ร่วมการตั้งทั้งทางตรงและทางอ้อมได้

นอกจากนี้ที่ด้านหน้าของสภาได้มีบรรยากาศที่คึกคักแล้วก็น่าจะตาดูว่ามันกลายเป็นว่าการที่มีการยื่นให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรครัฐฐาลได้อ้างว่ามันเป็นนโยบายที่จะต้องทำแน่ๆนั้นและในวันนี้ด้านประชาชนได้บุกไปที่ด้านหน้าของสภาไม่มี สส. พรรครัฐบาลรายไหนไม่ว่าจะเป็นภูมิใจไทยไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตพลังประชารัฐชาติไทย ชาติไทยพัฒนา หรือ พรรคเล็ก พรรคน้อยทั้งหลาย พรรคงูเห่าทั้งหลายมารับหนังสือของประชาชนเลยมีแต่กลุ่มพรรคของฝ่ายค้านไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคก้าวไกล พรรคพลังวงชนไทยและพรรคอื่นๆที่ได้อออกมารับหนังสือของประชาชน

ซึ่งได้มาจากการล่ารายชื่อและในสัปดาห์หน้าสิ่งที่ประชาชนเสนอในวันนี้นั้นมันได้เป็นส่วนหนึ่งของการยื่นกฎหมายเข้าสู่สภาโดยพรรคฝ่ายค้านและนี่คือคำมั่นสัญญาณที่คุณสุทิน ที่ได้เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทยได้รับปากกับประชาชนแล้วว่าการพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขประชามติของประชาชนนั้นจะมีการนำเข้าสภาอย่างโดยเร็ว

เพราะฉะนั้นบรรยากาศได้เข้มข้นมากขึ้นทุกครั้งประชาชนได้มีการเผารถถังเผาเครื่องบินเผารัฐธรรมนูญเผานาฬิกาสุดหรูแบบเผากงเต็กราวกับว่าจะให้คนที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐธรรมนูญและทำให้ประเทศไทยหายนะตอนนี้ยังได้มีชีวิตอยู่แต่ประชาชนเหล่านี้ได้เผากงเต็มเหมือนกับว่าคนเหล่านี้ได้ตายลงไปแล้วและสาปแช่งว่าขอให้คนเหล่านี้ต้องได้รับกับความหายนะที่ทำให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยผ่านธรรมนูญ2560

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88 คาสิโน

โควิด-19ระบาดครั้งที่สองที่เมืองหลวงของรัฐวิคตอเรียเมืองเมลเบิร์น

ช่วงนี้เรามาดูประชาชนที่ต่างประเทศกันที่ประเทศออสเตรียที่รัฐวิคตอเรีย-เมลเบิร์นซึ่งได้มีข้อมูลออกมาว่าได้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายหลังๆนี้ได้มีความเกี่ยวข้องในบ้านพักของคนชราอีกด้วยล่าสุดได้มีการรายงานว่าได้มีผู้เสียชีวิตขึ้นมาใหม่แล้วจำนวน13คนหลักๆเลยก็จะมีแต่คนสูงวัยทั้งนั้นเลยแล้วก็สถานการณ์การระบาดในครั้งนี้ได้ส่งผลทำให้วิคตอเรียได้มีการประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติชาวเมลเบิร์นห้ามเดินทางออกจากบ้านในระยะทางเกน5กิโลเมตรเราจะพาไปดูพร้อมๆกัน

เรียกได้ว่าสถานการณ์ในรัฐวิคตอเรียซึ่งได้มีเมืองเมลเบิร์นที่ได้เป็นเมืองเอกกลายเป็นว่าไม่สู้ดีมากเท่าไรซึ่งพบว่าได้มีการรายงานตัวเลขของผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มเติมขึ้นมารายใหม่ที่ได้รายงานออกมาในช่วงเช้าอยู่ที่ประมาณ429คนเสียชีวิตเพิ่มรายใหม่อยู่ที่ประมาณ13คนส่งผลทำให้ในเวลานี้เมืองเมลเบิร์นจะต้องประกาณ์ล็อกดาวน์ในวันนี้เข้มงวดมากที่สุดๆไปเลยเข้มงวดมากที่สุดเท่าที่เคยมีประกาศมารตการล็อกดาวน์มาก่อนหน้านี้ครั้งถึงสองครั้งนี้มีความรุนแรงมากที่สุดก็จะเป็นแบบนี้ต่อเนื่องไป6สัปดาห์หรืออาจจะประมาณเดือนครึ่งด้วยกันนั่นก็หมายความว่าชาวเมลเบิร์นจะต้องอยู่แต่ภายในบ้านและออกจากบ้านไปในระยะทางไม่เกิน5กิโลเมตรเท่านั้น

ซึ่งเราจะพาไปดูว่ามันจะมีบรรยากาศเป็นอย่างไงเรามาดูสถานกาณ์ของเมลเบิร์นกันก่อนอย่างที่บอกว่าผู้เสียชีวิต13รายส่วนใหญ่แล้วจะมีความเกี่ยวข้องกับสถาที่พักของผู้สูงวัยเชื้อมันได้ระบาดเข้าไปภายในบ้านพักของผู้สูงวัยแล้วตรงนี้มันได้มีความอัตรายมากๆจึงทำให้ตอนนี้ทำให้รัฐวิคตอเรียได้มียอดผู้ติดเชื้อรวมแล้วมากกว่า1.2หมื่นคนหลักๆเลยก็จะอยุ่ในเมืองเมลเบิร์นที่เป็นเมืองเอกของรัฐ

นอกจากนี้ก็ยังได้พบว่าในรัฐวิคตอเรียเองยังคงมีคนที่ได้พักรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลอยู่ที่ประมาณ416คนซึ่งทั้งหมดนี้ได้อยู่ภายในห้องicu35คนแล้วก็มีรานงานผู้ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิก-19แล้วเกือบ1,200คนด้วยกันคือการประกาศสถานการณ์โควิด-19ที่รัฐวิคตอเรียเขาได้มีการประกาศทั้งรัฐแต่ว่าแต่ละเมืองมารตการของเขาก็จะเข้มงวดมีความแตกต่างกันออกไป

โดยเฉพาะที่เมลเบิร์น ซึ่งที่เมลเบิร์นนั้นได้มีความเข้มงวดมากที่สุดกว่าเมืองอื่นๆเพราะผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่แล้วก็จะอยู่ที่เมืองเมลเบิร์นเพราะฉะนั้นในเมืองเมลเบิร์นอีกหนึ่งอย่างที่จะต้องเผชิญนอกเหนือจากไวรัสที่กำลังระบาดอยู่แล้วนั่นก็คือเรื่องของการพากันไปกักตุนอาหาร

 

 

สนับสนุนโดย  rb88 line

ชายหนุ่มถูกไล่ที่ ทั้งที่แม่นอนป่วยมะเร็งยะระยะสุดท้าย

ชายหนุ่มถูกไล่ที่ ทั้งที่แม่นอนป่วยมะเร็งยะระยะสุดท้าย เจ้าของหอพักกลัวมีคนตายแล้วคนเช่าคนอื่นจะย้ายหนี

               ชายหนุ่มสุดจะช้ำ  แม่บุญธรรมป่วยโรคมะเร็งเจอเจ้าของห้องไล่ที่โดยที่เจ้าของห้องบอกว่าไม่อยากที่จะให้มาตายอยู่ในห้องแห่งนี้เพราะกลัวผู้เช่าคนอื่นจะย้ายหนีเจ้าตัวเปิดเผยไม่สามารถขายของได้เพราะไม่มีที่ให้ขายของอีกครั้งแถวนี้คนก็ไม่มีเงินที่จะซื้อของ    เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เดือนพฤษภาคมปีพ.ศ 2563 เมื่อมีชายหนุ่มคนหนึ่งได้มีการโพสต์รูปภาพหญิงชราคนหนึ่งนอนอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่งลักษณะเหมือนกับเป็นผู้ป่วยซึ่งในข้อความใต้ภาพจะมีการเขียนบรรยายเอาไว้ ว่าหญิงชราคนดังกล่าวนั้นเป็นแม่ของเจ้าของคนโพสต์นั่นเองซึ่งเขาเขียนไว้ว่าแม่ของเขานั้น

ตอนนี้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ระยะสุดท้ายไม่สามารถที่จะรักษาให้หายได้แล้วแต่ตอนนี้ตัวเองและแม่กำลังประสบปัญหาเมื่อเจ้าของห้องเช่าไม่ยอมให้เช่าต่อต้องการให้ย้ายออกทันทีโดยให้เหตุผลว่ากลัวแม่จะตายคาห้องเช่าและผู้เช่าคนอื่นจะกลัวผีแล้วพากันหนีหายไปหมดทำให้เขาเองจะต้องหาห้องเช่าห้องใหม่ซึ่งขณะนี้ตัวเขาเองก็ไม่มีเงินพอที่จะไปหาเช่าที่อื่นเนื่องจากว่าตั้งแต่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่ามาตัวเขาเองก็ไม่ได้ออกไปขายของซึ่งโดยปกติแล้วเขาจะมีอาชีพขายลอดช่อง

แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถออกไปขายของได้และที่สำคัญถึงแม้จะเปิดร้านอยู่หน้าห้องเช่าคนแถวนี้ก็ไม่มีเงินที่จะซื้อขนมลอดช่องของเขาเพราะทุกคนต่างก็เดือดร้อนจากปัญหาการไม่มีงานทำด้วยกันทั้งนั้นเขาได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวเพื่อขอรับบริจาคเงินเพื่อไปทำการเช่าห้องเพื่ออยู่อาศัยกับแม่ของเขาซึ่งเขายังบอกอีกว่าเจ้าของห้องเช่าเรียกเก็บเงินเขาไป 1,000 บาท

ที่เขาเคยจ่ายเป็นค่ามัดจำห้องเช่าโดยจะหักเป็นค่าน้ำค่าไฟซึ่งหลังจากที่เขาได้มีการทดลองเรื่องราวออกมาก็มีผู้คนแสดงความสงสารและมีการโอนเงินเข้าไปช่วยเหลือเขาเป็นจำนวนมากซึ่งเขาได้มีการโพสต์ Facebook ต่ออีกว่าปัจจุบันนี้เขาได้รับเงินช่วยเหลือจากหลายคนและเขาได้ไปจองห้องเช่าเอาไว้แล้ว

อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลโดยเขาระบุชื่อห้องเช่าลงใน Facebook เอาไว้ด้วยและยังบอกอีกว่าหากมีการย้ายของเข้าไปอยู่ในห้องเช่าใหม่เสร็จแล้วจะมีการถ่ายรูปเพื่ออัพเดทให้กับผู้ที่บริจาคเงินมาช่วยเหลือเขาในครั้งนี้ได้เห็นอีกครั้งหนึ่งโดยเขายังบอกอีกว่าเขาจะกลับไปขายลอดช่องและหากใครที่เคยโอนเงินมาช่วยเหลือเขาในครั้งนี้สามารถไปกินแล้วช่องของเขาฟรีได้เพราะเขาไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณคนที่ช่วยเหลือเขาในครั้งนี้ได้ยังไงนอกจากจะให้กินขนมลอดช่องของเขาฟรี

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  next88 ทางเข้า

คนตายเพราะกินขนมจีบ

        มีเหตุการณ์คนพากันซื้อขนมจีบมากินจากแม่ค้าที่เข็นรถออกมาเร่ขายตามท้องถนน  ปรากฏว่าหลายคนมีอาการท้องเสียและยังมีคุณยายอายุ 66 ปี เสียชีวิต เมื่อนำขนมจีบพร้อมกับน้ำจิ้มไปตรวจสอบพบว่ามีการที่เป็นส่วนผสมที่อันตรายปนเปื้อนอยู่ในน้ำจิ้มขนมจีบ

      สำหรับเหตุการณ์ที่คนกินขนมจีบแล้วเสียชีวิตในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2563  มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อมีครอบครัวหนึ่งต้องมาพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดฝันเมื่อพวกเขาได้ทำการซื้อขนมจีบมาจากแม่ค้าขนเข็นที่เข็นมาขายบริเวณหน้าบ้านมากิน ซึ่งหลังจากที่พวกเขากินขนมจีนเข้าไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีอาการเวียนหัว และท้องเสีย บางคนคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งครอบครัวนี้มีกันหลายคนที่กินเข้าไป แต่ละคนมีอาการแตกต่างกันออกไป แต่ที่อาการหนักที่สุดคือคุณยายอายุ 66 ปี ที่มีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงและในที่สุดก็เสียชีวิต

  ส่วนคนอื่นอื่นนั้นก็มีอาการอาเจียนและท้องเสียเช่นเดียวกัน  โดยในช่วงที่ทุกคนท้องเสียนั้นเป็นช่วงของเวลาเคอร์ฟิวแล้วทำให้ครอบครัวดังกล่าวไม่กล้าที่จะเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงก็ตาม ทุกคนอดทนรอให้ถึงตอนเช้าแล้วจึงค่อยพากันเดินทางไปหาหมอทำให้หลายคนอาการหนักเมื่อถึงมือของหมอแล้ว

และในที่สุดคุณยายก็เป็นคนแรกที่เสียชีวิตลง  สำหรับขนมจีบที่แม่ค้านำมาขายนี้นอกจากครอบครัวนี้แล้ว ยังมีอีกหลายครอบครัวที่ซื้อขนมจีบจากแม่ค้าคนดังกล่าว และทุกคนที่ได้กินขนมจีบเข้าไปต่างก็มีอาการท้องเสียและอาเจียนเหมือนกัน 

        ขณะเดียวกันนายประเสริฐ  ซึ่งเป็นสามีของคุณยายอายุ 66 ปี ได้เดินทางออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อมาร่วมงานศพของภรรยาตัวเองทั้งที่ตัวของนายประเสริฐเองก็ยังต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลเช่นกันเพราะยังมีอาการท้องเสียรุนแรงอยู่ ส่วนคนอื่นอื่นเช่น หลานและทุกคนที่อยู่ในครอบครัวนี้ที่ได้กินขนมจีบเข้าไปต่างก็พากันต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกันหมด

มีเพียงลูกสาวของนายประเสริฐคนเดียวที่ไม่ได้กินขนมจีน และคนที่ท้องเสียส่วนใหญ่จะถ่ายเหลวเป็นน้ำทำให้หลายคนช็อกเพราะร่างกายขาดน้ำ ซึ่งคุณหมอที่รักษาครอบครัวนี้ได้แจ้งว่าทุกคนในครอบครัวเป็นอาหารเป็นพิษ ซึ่งเมื่อทุกคนคิดกันแล้วว่ามีการกินอะไรเข้าไปบ้างก็พบว่าคนที่ท้องเสียนั้นกินขนมจีบเหมือนกันทุกคน และมีอีกหลายครอบครัวที่พบว่ามีอาหารเป็นพิษเช่นเดียวกัน หลังจากที่กินขนมจีบร้านค้าเดียวกัน 

 

 

สนับสนุนโดย  next88

พิษน้ำเกลือรั่ว เด็กน้อยมือไหม้

จากข่าวเมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา กรณีที่แม่เด็กน้อยวัย 10 เดือนได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟสบุ๊คของตัวเองว่า ลูกสาวของตัวเองมีรอยไหม้ที่แขนอันเกิดมาจากสาเหตุที่พยาบาลของ รพ.กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี แทงสายน้ำเกลือไม่เข้าเส้นเลือดน้ำเกลือจึงรั่วออกมาที่ใต้ผิวหนังทำให้เกิดแผลไหม้พุพองที่แขน  หลายคนได้อ่านแล้วรู้สึกสงสารเด็กน้อย จึงได้มีการแชร์ต่อๆกันในโลกสังคมออนไลน์ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันจนเป็นข่าวใหญ่โต

นักข่าวติดต่อสอบถามไปที่แม่ของเด็กได้ความว่า เด็กน้อยคนนี้ชื่อน้องออมตัง อายุ 10 เดือน ได้ป่วยท้องเสียและอาเจียนอย่างหนัก ก่อนหน้านี้ได้นำตัวไปรักษาที่คลีนิคแห่งหนึ่งมาแล้ว แต่ว่าอาการน้องก็ไม่ดีขึ้นจึงรีบนำตัวน้องเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลกุมภวาปี นอนรักษาตัวอยู่ 3 คืนอาการท้องเสียเริ่มดีขึ้น แต่น้องงอแงร้องไห้ตลอดที่สำคัญตรงหลังมือเริ่มมีอาการบวมแดง ตนไปถามกับพยาบาลว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่พยาบาลกับทำน้ำเสียงและชักสีหน้าไม่พอใจ บอกว่าก็แค่น้ำเกลือไม่เข้าเส้นเลือด ไม่เป็นอะไรมากหรอก เด๋วแผลก็หายเองมันจะอะไรกันหนักกันหนา ทำให้ตนรู้สึกโมโหยิ่งมาเห็นที่ข้อมือน้องอักเสบและเป็นรอยไหม้ด้วยแล้ว ตนเลยทำเรื่องย้ายลูกออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอื่นแทน ที่โพสต์ก็ไม่ได้ต้องการจะประจานทางโรงพยาบาลหรือเรียกร้องเงิน แค่อยากจะเตือนพ่อแม่คนอื่นๆที่จะพาลูกมารักษาตัวที่โรงพยาบาล ว่าให้ดูแลกันดีๆ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

ทางด้านโรงพยาบาล ผอ. ก็ออกมารับผิดชอบรวมทั้งฝากขอโทษไปยังพ่อแม่ของน้องออมตังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังได้อธิบายเรื่องน้ำเกลือรั่วไว้อย่างชัดเจน ว่าปกติอาการน้ำเกลือรั่วหรือน้ำเกลือไม่เข้าเส้นเลือดแล้วมาขังอยู่ใต้ผิวหนังนั่นเกิดขึ้นได้ตลอดการรักษา เริ่มต้นจะมีอาการบวมแดง เป็นแผล และแผลนั้นก็จะหายไปเอง ไม่ได้รุนแรงอะไรถ้ากรณีเป็นผู้ใหญ่ 

แต่สำหรับเคสน้องออมตังที่เป็นเยอะก็เพราะว่าในการรักษาเด็กเล็กน้ำเกลือที่ใช้ต้องมีส่วนผสมของน้ำตาล ตัวน้องเองท้องเสียมาตลอดหลายวัน พอน้ำเกลือที่ผสมน้ำตาลนั้นรั่วมาอยู่ใต้ผิวหนังอาการจึงดูรุนแรงกว่าในผู้ใหญ่หรือเด็กเล็กรายอื่นๆที่ใช้น้ำเกลือธรรมดา

  ส่วนเรื่องการบริการของโรงพยาบาล ผอ. กล่าวว่าจะไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ดีกว่าเดิม จะระมัดระวังในการรักษาเด็กเล็กให้มากยิ่งขึ้น และตอนนี้ได้ส่งทีมแพทย์ที่ชำนาญเรื่องการรักษาแผลไปดูแลแผลของน้องออมตังให้หายกับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เพราะถ้าเรื่องนี้เกิดกับลูกของตนบ้าง ก็คงตัดสินใจทำแบบที่พ่อแม่ของน้องทำ อย่างว่าแหละ ลูกใคร ใครก็รัก !!!

 

สนับสนุนโดย  entaplayทางเข้า

ข้อสอบ O-Net ยากมากขนาดครูยังบ่น

สำหรับนักเรียนทุกคนที่จบชั้นปอหกจะต้องมีการสอบ O-Net  ซึ่งถือได้ว่าข้อสอบที่ยากมากๆบางครั้งผู้ใหญ่อย่างเราเองเมื่อเห็นข้อสอบนี้ก็ยังทำไม่ได้เหมือนกันหากดูโจทย์ที่เห็นตามที่มีข่าวอยู่ในขณะนี้บอกได้เลยว่าแทบจะทำไม่ได้ซักข้อหรือหากทำได้ก็ต้องใช้เวลาตั้งแต่ 10 นาทีขึ้นไปแต่ในปัจจุบันก็มีการออกข้อสอบแบบนี้ออกมาเรื่อยเรื่อย

ซึ่งการออกข้อสอบถูกออกแบบมาเลยคุณครูที่เคยได้สอนนักเรียนก็จริงแต่การสอนของคุณครูแต่ละโรงเรียนไม่เหมือนกันแตกต่างกันมากบางโรงเรียนให้ความรู้นักเรียนในน้อยมากนักเรียนบางคนต้องกระตือลือล้นที่จะหาความรู้จากโรงเรียนกวดวิชาข้างนอกซึ่งถ้าดูจากข้อสอบที่ให้นักเรียนสอบ O-Net แทบจะเป็นไปได้ว่าหากเด็กคนไหนไม่ได้เรียนกวดวิชาจากโรงเรียน โรงเรียนข้างนอกก็แทบจะทำไม่ได้เลยยิ่งเด็กต่างจังหวัดยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะหาสถานที่ที่เป็นโรงเรียนกวดวิชาที่สอนเก่งเก่งค่อนข้างยากอยู่แล้วสถาบันกวดวิชาที่สามารถสอนเด็กให้เก่งได้ส่วนใหญ่ก็อยู่แต่ในกรุงเทพเป็นสถาบันใหญ่ใหญ่

ที่ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากในการที่จะเข้าไปเรียนดังนั้นถึงแม้เป็นเด็กในกรุงเทพเองหาผู้ปกครองไม่ได้ร่ำรวยมากนักก็แทบไม่มีโอกาสเข้าไปเรียนในสถาบันกวดวิชากันได้เลย ดังนั้นการออกข้อสอบ O-Net จึงไม่สามารถวัดค่าความฉลาดความรู้ของเด็กในพื้นที่ที่ต่างกันได้เพราะเด็กไม่ได้ถูกสอนมาเหมือนกันค่ะทางหน่วยวิชาการอาจจะมองว่ามีการออกข้อสอบ แบบเสื้อเฮียด้วยครับทั้งวิชาที่ง่ายขอที่ง่ายข้อที่ยาก

และข้อที่ยากปานกลางมาแล้วดังนั้นเด็กเด็กน่าจะเดาคำตอบกันได้บ้างซึ่งอันที่จริงแล้วในความเป็นจริงหน้าที่บอกขอที่บอกว่าง่ายก็ยังต้องใช้เวลาในการคิดคำนวณ เป็นเวลานานมากอยู่ในเหมือนกันในแต่ละข้อซึ่งกว่าจะทำได้ข้อหนึ่งก็เกือบ 10 นาทีดังนั้นเด็กที่ทำข้อสอบออนไลน์ส่วนใหญ่มักจะทำเพราะสอบไม่ทันตั้งเวลาที่กำหนดไว้ทำให้ทดสอบที่เหลือที่ยังทำไม่เสร็จ

เด็กเด็กส่วนใหญ่ก็จะสุ่มเดาคำตอบลงในกระดาษคำตอบเพื่อส่งคุณครูเพื่อให้ทันตามกำหนดเวลาเราไม่เช่นนั้นแล้วก็จะถูกปรับตก มาถึงจุดนี้เราควรที่จะมีการประชุมหารือกันได้หรือยังว่าควรจะทำอย่างไรกับการออกข้อสอบที่ให้เด็กทั้งประเทศทำข้อสอบแบบเดียวกันเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยมีเงินไขว่าเด็กทั้งประเทศไม่ได้เรียนมาจากคุณครูพันธุ์เดียวกันคงต้องดูกันว่าปีหน้าการออกข้อสอบ O-Net จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมากกว่านี้หรือไม่  

 

ขอบคุณ  ซื้อหวยฮานอยออนไลน์  ที่ให้การสนับสนุน